โรงเรือนปลูกพืช แบบไหนเหมาะกับปลูกพืชอะไร
โรงเรือนปลูกพืช ช่วยให้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการปลูกพืช โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันมากๆ สภาพอากาศแปรปรวน ทั้งอุณหภูมิ ลม และปริมาณฝนที่ไม่สม่ำเสมอ รวมไปถึงการปลูกพืชนอกฤดู พืชที่มีราคาสูงหรือปลูกพืชเมืองหนาว โดยที่ไม่มีแมลงมารบกวน จะต้องมีสถานที่พร้อม เพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืชที่จะเข้ามาทำลายพืชที่ปลูก โรงเรือนคืออีกตัวช่วยสำหรับเกษตรกร สามารถปลูกพืชได้โดยไม่ได้รับความเสียหายไม่ส่งผลกับผลผลิต
โรงเรือนยุคนี้มีระบบควบคุม ทั้งอุณหภูมิ น้ำ แสง การใส่ปุ๋ย ช่วยป้องกันโรคและแมลงในโรงเรือนได้ ทำให้เกษตรกรพร้อมที่จะก้าวสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์ได้ สามารถควบคุมปัจจัยทุกตัวที่มีผลต่อพืชได้ทั้งหมด ช่วยลดต้นทุนสารเคมี ยากำจัดแมลง
ข้อดีของการปลูกผักในโรงเรือน
-ป้องกันแมลงศัตรูพืชได้ดี
-ช่วยรักษาความชื้น และอุณหภูมิภายในได้ตามต้องการ
-ปลูกผักนอกฤดูได้ ผักเหล่านี้จึงมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น เมื่อปลูกอยู่ในโรงเรือนจึงสามารถปลูกพืชนอกฤดูกาลได้ดี
-ดูแลง่าย สามารถควบคุมการเกิดของแมลง วัชพืช และการขาดธาตุอาหารของพืชได้ง่ายกว่า
-สามารถปลูกพืชหมุนเวียนได้
-ผักที่ปลูกมีคุณภาพ ด้วยกรรมวิธีการปลูก การดูแลและการกำจัดศัตรูพืช ทำให้ผักที่ปลูกได้มีคุณภาพและประโยชน์ที่ครบถ้วน ปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย
1.โรงเรือนทรงโค้ง
เป็นทรงที่นิยมมากในบ้านเรา รูปทรงมีความทันสมัย สามารถปลูกผักได้เกือบทุกชนิด เป็นโรงเรือนราคาประหยัด สามารถต้านทานกับแรงลมที่เข้ามาปะทะได้ดี เพราะลักษณะที่โค้งจะทำให้ลมไหลผ่านได้ง่ายขึ้น ส่วนการระบายอากาศอาศัยการถ่ายเทอากาศจากด้านข้างโรงเรือนผ่านตาข่ายกันแมลง
-เหมาะสำหรับการปลูกพืชกินต้นและใบ ตระกูลผักนำหน้า เช่น ผักสลัด ผักคะน้า ผักกาดขาว ผักกาดเขียว ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง เป็นต้น และยังเหมาะสำหรับพืชที่ต้องขึ้นค้างหรือพืชเถาเลื้อย เช่น แตงโม เมล่อน แคนตาลูป สตรอเบอร์รี่ มะเขือเทศ
-เหมาะสำหรับการเพาะกล้าพืชทุกชนิด เช่น ผัก,ดอกไม้,ไม้ผล,ปาล์มและยางพารา เป็นต้น
-เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการคุณภาพของผลผลิตสูง ผลผลิตสะอาด ปลอดภัยสีสันสดใหม่ ขนาดของผลสม่ำเสมอ
-สำหรับป้องก้นแมลงศัตรูพืชที่ทำให้เกิดความเสียหายกับพืชที่เราต้องการ
2.โรงเรือนทรงจั่ว 2 ชั้น
เป็นโรงเรือนทรงสูงมีความสามารถในการระบายอากาศได้ดีกว่าแบบหลังคาระบายอากาศ น้ำไม่สาดเข้าด้านในโรงเรือนเมื่อมีฝนตก เหมาะสำหรับพื้นที่เขตร้อนอย่างในประเทศไทย มีช่องระบายอากาศ 2 ด้าน ปิดมุ้งตาข่ายกันแมลงด้านบน เพื่อถ่ายเทความร้อนออกได้เร็ว อายุการใช้งาน 3-5 ปีโดยประมาณ
• เหมาะสำหรับพืชที่มีความสูงหรือเถาเลื้อยที่ต้องการขึ้นค้าง เช่น แตงโม เมล่อน แคนตาลูป มะเขือเทศเชอร์รี่ พริกหวาน
3.โรงเรือนกอไก่หรือฟันเลื่อย
ตรงหลังคามีช่องเปิด ช่วยลดอุณหภูมิโรงเรือนได้ดีกว่าโรงเรือนแบบปกติ เพิ่มอัตราหมุนเวียนอากาศให้สูงขึ้น เหมาะกับลักษณะอากาศแบบประเทศไทย นิยมใช้ในโรงเรือนที่ปลูกพืชเชิงการค้า มีช่องระบายอากาศ 1 ด้าน ปิดมุ้งตาข่ายกันแมลงด้านบน เพื่อถ่ายเทความร้อนออกได้เร็ว ระบายอากาศ ทำได้ทั้งด้านข้างและด้านบน มีอัตราการระบายอากาศสูง
• เหมาะสำหรับพืชที่มีความสูงหรือเถาเลื้อยที่ต้องการขึ้นค้าง เช่น แตงโม เมล่อน แคนตาลูป มะเขือเทศเชอร์รี่ พริกหวาน
ราคาขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และวัสดุในการก่อสร้างโรงเรือน ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีราคาที่ต่างกัน ขนาดเล็กๆ ราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ตามขนาดไซซ์ที่ต้องการ
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.hellofarming.com/