6 ขั้นตอน ปลูกต้นอ่อนผักบุ้งง่ายๆ เก็บรับประทานได้ใน 10 วัน
ผักบุ้ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ipomoea aquatic Forssk หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ผักทอดยอด ใน ผักบุ้ง 100 กรัม จะให้พลังงาน 22 กิโลแคลอรี มีคุณค่าโภชนาการ ประกอบด้วย เส้นใย วิตามิน และแร่ธาตุอื่นๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น
โดย ผักบุ้งไทย จะมีวิตามินซีสูงและมีสรรพคุณทางยามากกว่า ผักบุ้งจีน แต่จะมีแคลเซียม และเบตาแคโรทีน (มีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา) น้อยกว่าผักบุ้งจีน หากรับประทานผักบุ้งสดๆ ที่ปลอดจากสารเคมี จะได้คุณค่าของวิตามินและแร่ธาตุสูง
ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตต่ำควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักบุ้ง เพราะผักบุ้งมีคุณสมบัติไปช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งจะทำให้ความดันยิ่งต่ำลงไป อาจจะก่อให้เกิดอาการเป็นตะคริวได้ง่ายและบ่อยขึ้น ทำให้ร่างกายอ่อนแอได้
สรรพคุณของผักบุ้ง มีหลากหลาย อาทิ ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส มีน้ำมีนวล มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการชะลอวัย ความแก่ชรา และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยป้องกันการเกิดหรือลดอัตราการเกิดของโรคมะเร็งได้ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบำรุงธาตุ เป็นต้น
ในตำราโบราณ ระบุว่า ต้นสดของผักบุ้งจะนำมาใช้เป็นยาดับร้อน แก้อาการร้อนใน บำรุงโลหิต บำรุงกระดูกและฟัน ช่วยเสริมสร้างศักยภาพในด้านความจำและการเรียนรู้ให้ดีขึ้น ยอดผักบุ้งช่วยแก้โรคประสาท รากผักบุ้งช่วยแก้อาการเหงื่อออกมาก มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย แก้อาการไอเรื้อรัง แก้โรคหืด เป็นต้น
การปลูกต้นอ่อนผักบุ้ง ที่สามารถเก็บมารับประทานได้หรือนำไปจาหน่ายได้ภายใน 10 วัน เริ่มต้นด้วยการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ได้แก่ 1. เมล็ดผักบุ้งหาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์หรือร้านค้าจำหน่ายวัสดุการเกษตร 2. ดินผสมพร้อมปลูก 3. กระบะ/กระถาง หรือตะกร้าปลูก ขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ 4. ผ้าขนหนู และ 5. น้ำ
วิธีการปลูกต้นอ่อนผักบุ้ง
- แช่เมล็ดพันธุ์ผักบุ้งจีนในน้ำ 6 ชั่วโมง จากนั้นนำขึ้นมาผึ่งทิ้งไว้ 10 นาที
2. โรยเมล็ดลงบนดิน ผสมไม่หนาแน่นจนเกินไป และโรยดินกลบ ความหนาเท่ากับเมล็ด หรือโรยเมล็ดหนา 1 ชั้นลงบนผ้าขนหนูที่วางบนตะกร้า แล้วนำผ้าปิดด้านบนเมล็ด
3. ปิดคลุมเมล็ดที่เพาะให้มิด รดน้ำเป็นละอองฝอยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นเวลา 8-9 วัน โดยระวังไม่ให้ดินแฉะ หรือแห้งจนเกินไป
4. เมื่ออายุครบ 5 วัน ให้เปิดวัสดุที่ปิดคลุมออก จะเห็นต้นอ่อนมีสีเหลือง
5. เมื่ออายุครบ 6 วัน ให้นำออกมารับแสง เพื่อสร้างคลอโรฟิลล์ สร้างใบ และยอดอ่อนสีเขียว
6.อายุ 9-10 วัน สามารถเก็บต้นอ่อนผักบุ้งไปบริโภค หรือจำหน่ายได้
อย่างไรก็ตาม การปลูกต้นอ่อนผักบุ้ง ตามวิธีการที่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง
ประเทศไทย หรือ วว. แนะนำดังกล่าว สามารถปรับลดขนาดได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ที่ท่านมี ซึ่งจะทำให้ได้ผักสำหรับรับประทานที่ปลอดจากสารเคมี มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยประหยัดรายจ่าย และช่วยเพิ่มรายได้ในครัวเรือน นำไปประกอบอาชีพต่อไป
ข้อมูลจาก สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย หรือ วว.