เด็กหนุ่มสุโขทัยหัวใส เลี้ยงปลาทองส่งขาย สร้างรายได้งาม
คุณศิริภูมิ มีศิริ หรือ คุณภูมิ วัย 17 ปี เจ้าของฟาร์ม “ภูมิภูมิฟาร์มปลาทอง” ในพื้นที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย เด็กหนุ่มที่ชื่นชอบการเลี้ยงปลาสวยงามเป็นชีวิตจิตใจ ก่อนที่จะผันตัวมาเลี้ยงปลาทอง เพราะมองว่าปลาทองเป็นปลาที่ทุกคนรู้จัก จึงศึกษาวิธีการเลี้ยงปลาทองอย่างจริงจังและเริ่มลงมือทำอย่างตั้งใจ
จุดเริ่มต้นของการเลี้ยงปลาทองมาจากความชอบส่วนตัวในวัยเด็ก ทำให้เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ซื้อปลาทองมาเลี้ยงในตู้ก่อน และพยายามศึกษาหาข้อมูล ลองผิดลองถูก และเดินสายอบรมเกี่ยวกับปลาทองตามสถานที่ที่จัดขึ้น ด้วยความโชคดีมีพี่ๆ ที่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงปลาทองคอยดูแลและให้คำแนะนำ ก่อนจะเปิดฟาร์มเลี้ยงปลาทองแบบครบวงจรและเต็มรูปแบบเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ายในฟาร์มของคุณศิริภูมิ มีการเลี้ยงปลาทองหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกสรร เช่น สายพันธุ์ฮอลันดายักษ์ สายพันธุ์สิงห์ไฮบริด เป็นต้น ปลาทองทั้งหมดในฟาร์มจะถูกเลี้ยงในบ่อดินและบ่อปูน โดยมีบ่อดินจำนวน 6 บ่อ บ่อละประมาณ 1 งาน บริเวณรอบบ่อดินจะต้องล้อมพื้นที่ เพื่อป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน นก กบ คางคก บุกเข้ามากินปลาทองในบ่อดิน และบ่อปูนจำนวน 40 บ่อ ขนาดความกว้าง 2.3 เมตร ความยาว 2.3 เมตร และสูง 60 เซนติเมตร โดยบ่อปูนจะใช้สำหรับแค่ขายปลาและขุนปลาแค่บางบ่อเท่านั้น เพราะว่าถ้าเลี้ยงปลาทองในบ่อปูนอย่างเดียวไม่คุ้มค่าในเรื่องค่าไฟ การเปลี่ยนน้ำ ดังนั้น ต้องขุนในบ่อดินและนำปลาทองขึ้นมาขายในบ่อปูน
“เลี้ยงปลาทองในบ่อดินเพื่อจะให้ปลาทองโต ลูกปลาทองเด็กจะถูกเลี้ยงในบ่อปูน พอปลาทองอายุได้ 1 เดือนหรือ 1 เดือนครึ่ง ก็จะทำการคัดลงบ่อดิน คัด 1 สัปดาห์ 15 วัน และก็ 1 เดือน ถึงจะนำปลาทองไปลงบ่อดิน ไซซ์ปลาไม่เกิน 1 นิ้ว ตัวสวย เน้นล้อมพื้นที่โดยรอบบ่อดิน เพื่อป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน นก กบ คางคก มากินปลาทองในบ่อดินที่เพาะไว้”
การผสมพันธุ์ปลาทองภายในฟาร์มของคุณศิริภูมินั้น จะแบ่งออกเป็น 2 วัน คือ วันที่หนึ่งจะนำตัวพ่อและแม่ลงไปในบ่อเพาะที่จัดเตรียมไว้ ในปริมาณน้ำที่ไม่เยอะมาก ไม่เกิน 40 เซนติเมตร สำหรับปลาใหญ่ ถ้าปลาเล็กก็ประมาณสัก 20-30 เซนติเมตร เพื่อให้พ่อแม่พันธุ์ปลาทองนั้นไล่ผสมพันธุ์กันง่ายขึ้น น้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำใหม่ 100 เปอร์เซ็นต์ อาจจะนำผักตบชวาหรือเชือกฟางฉีกให้เป็นเส้นฝอยเล็กๆ เพื่อมัดกับท่อ PVC หรือหินก็ได้ ถ่วงให้จม จากนั้นปลาก็จะมาไล่ในพู่ที่เราทำไว้เมื่อสักครู่นี้ ซึ่งเวลาที่ดีสำหรับการปล่อยพ่อแม่พันธุ์ปลาทองลงไปนั้นควรอยู่ประมาณ 16.00 น. เป็นต้นไป เปิดออกซิเจนแรงๆ หรือน้ำล้น เพื่อจำลองสถานการณ์ว่าฝนตกอยู่นั่นเอง
จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 02.00-03.00 น. ปลาทองก็จะเริ่มไล่ผสมพันธุ์กันและเสร็จภารกิจการผสมพันธุ์ในช่วงเวลาประมาณ 06.00-07.00 น. ซึ่งเวลาประมาณสัก 05.00 น. ต้องเดินมาเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่าปลาทองนั้นไล่ผสมพันธุ์กันหรือไม่ สังเกตได้จากฟองน้ำเชื้อของปลาทองตัวผู้และกลิ่นคาวที่ออกมาชัดเจนว่าปลาทองนั้นผสมพันธุ์กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณศิริภูมิจะจับปลาทองทั้งตัวผู้และตัวเมียมารีดน้ำเชื้อผสมเทียมกัน 100 เปอร์เซ็นต์ อัตราการเกิดลูกปลาก็จะเกิดโอกาสสูง แต่ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน ฝนตกทั้งคืน ปลาทองจะผสมพันธุ์กันตามธรรมชาติอย่างรวดเร็ว แต่อัตราการเกิดของลูกปลาทองแบบธรรมชาตินั้นจะน้อยกว่าการผสมเทียม เนื่องจากปลาทองผสมพันธุ์แบบไล่กัน น้ำเชื้อ ไข่ อาจจะมีฝ่อเป็นเรื่องปกติ
“อัตราส่วนของปลาทองเพศผู้และเพศเมียนั้น โดยส่วนใหญ่ปลาทองเพศผู้ต้องเยอะกว่าปลาทองเพศเมีย อย่างน้อย 1 ตัว เท่ากับว่าจะเป็นปลาทองเพศเมีย 1 ตัว และปลาทองเพศผู้ 1 ตัว เพื่อให้ปลาทองเพศผู้ช่วยไล่ปลาทองเพศเมีย เพราะเวลาเพาะพันธุ์ปลาทองควรที่จะจดสายพันธุ์ไว้ด้วย เพื่อที่จะทำสายพันธุ์ที่ดีต่อไปในอนาคต”
ด้านพื้นที่ในการเลี้ยงปลาทองนั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ถ้าเลี้ยงในตู้ปลาต้องมีกรองและออกซิเจนที่ดี น้ำที่ใช้เลี้ยงต้องปราศจากคลอรีน น้ำสะอาด ถ้าต่อน้ำจากก๊อกประปา ควรพักน้ำอย่างน้อยสัก 3-7 วัน หรือถ้าไม่อยากพักน้ำหาซื้อกรองคลอรีน ซึ่งมีขายตามร้านขายปลาร้านใหญ่ สามารถเสียบกับท่อประปาและใช้งานได้ทันที
“ถ้าหากเลี้ยงในบ้าน ไม่มีแสงแดดส่องเข้าตู้ เมื่อเลี้ยงปลาทองไปสักระยะ อาจจะพบกับปัญหาสีของปลาทองหลุดลอก ปลาทองบางตัวอาจจะมีสีส้มทั้งตัวเลย หรืออาจจะกลายเป็นสีส้มซีดหรือสีขาวเลยก็มี ต้องแก้ปัญหาด้วยการใช้ไฟ LED เพื่อใช้แทนแสงแดด เปิดช่วงเช้าถึงช่วงเย็น ปิดช่วงกลางคืนเพราะเป็นช่วงเวลาที่ปลาทองพักผ่อน หากเลี้ยงกลางแดด ที่โล่งแจ้ง ต้องคำนึงเรื่องสัตว์เลื้อยคลาน นก กบ คางคก เรื่องน้ำก็ต้องศึกษาหาข้อมูลมากๆ ไม่ว่าจะเลี้ยงแบบไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องศึกษาเรื่องระบบกรองให้ดีที่สุด”
เมื่อปลาทองที่ผสมพันธุ์ออกไข่ จะใช้เวลา 3 วันในฤดูร้อน ส่วนฤดูหนาวจะใช้เวลา 4 วัน วันแรกหลังปลาทองเริ่มฟักตัวไม่ต้องให้อาหาร เพราะตัวของลูกปลาทองนั้นจะมีถุงไข่แดงบริเวณท้อง ถัดมาอีก 3-4 วัน ก็เริ่มให้อาร์ทีเมีย สั่งมาจากออนไลน์ เราก็เป่าไข่โดยการใส่เกลือ 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 ลิตร และก็ตามอาร์ทีเมีย 1 ช้อนโต๊ะ รอ 24 ชั่วโมง ไข่จะฟักเป็นตัว เมื่อฟักเป็นตัวแล้วจะใช้ตัวร่อนอาร์ทีเมีย แต่ทางฟาร์มของคุณศิริภูมินั้นจะใช้ตัวไรแดงสดที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช้ไรแดงแช่แข็ง เพราะเมื่อปล่อยลงในบ่อแล้วไรแดงจะเด้ง ไม่เน่า ลูกปลาทองสามารถกินได้ทั้งวันทั้งคืน ปลาทองก็โตเร็ว
หลังปลาทองอายุได้ 1 เดือน จะนำปลาทองลงบ่อดิน จะให้กินไรแดง ปล่อยไรแดงลงไปในปริมาณ 1-2 กิโลกรัม ต่อบ่อ หรือให้เท่าไรก็ได้ ไม่จำกัด เพราะปลาทองกินได้ทั้งวัน ช่วงนี้จะฝึกอาหารเม็ดไปในตัวลงในบ่อดินสัก 1-2 สัปดาห์ ก็จะหยุดให้ไรแดง และให้เป็นอาหารเม็ดลอยแทน ปลาทองเด็กจะต้องการโปรตีนประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ให้ 2 มื้อ เช้าและเย็น ควรให้กินไม่เกิน 09.00 น. และไม่ควรให้อาหารหลัง 17.00 น. เป็นต้นไป
ด้านปลาทองไซซ์ใหญ่ที่เป็นพ่อแม่พันธุ์ ทางฟาร์มจะให้หลากหลายทั้งอาหารเม็ดโปรตีนสูง ไข่ตุ๋นซึ่งจะช่วยในเรื่องเร่งวุ้นและเร่งโตตามธรรมชาติ ซึ่งจะมีส่วนผสมของผักกาด ผลไม้ต่างๆ เพื่อที่จะช่วยในการย่อยอาหารของลำไส้ปลา ให้ทุกช่วงเย็น เพราะว่าปลาทองจะเติบโตในช่วงตอนกลางคืน เสริมด้วยไรแดงสด ไรแดงแช่แข็ง หนอนแดง และไรทะเล เพื่อช่วยเสริมไฟเบอร์แทนผัก
“ปลาแก่ที่มีอายุ 3-4 ปีขึ้นไป อาหารเม็ดควรแช่น้ำก่อน 10-15 นาที ลดปริมาณโปรตีนลงมาอยู่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ ไม่ควรเกิน 40 เปอร์เซ็นต์ ลดปริมาณการให้และของสดลง เช่น ไข่ตุ๋น เสริมด้วยไรทะเลเล็กน้อย เพื่อให้ปลาทองกินอิ่ม ไม่ต้องอัดเยอะ เพราะปลาทองอายุมากแล้ว และ ไม่โตไปมากกว่านี้แล้ว”
ปลาทองภายในบ่อปูน
โรคที่เจอในปลาทองมีอยู่เยอะมาก อย่างหลักๆ ที่เจอ ก็จะเป็นพวกปรสิต เช่น เห็ดระฆัง หนอนสมอ ปลิงใส มักเจอในปลาบ่อดินหรือบ่อน้ำที่ไม่สะอาด กำจัดโดยการใช้ยารักษาปรสิตแบบเฉพาะ ที่มีส่วนผสมของยาฆ่าแมลง หาซื้อได้ตามกลุ่มที่การซื้อขายปลาทองหรือช่องทางออนไลน์
ปลาทองตัวใหญ่ สีสันสวยงาม
ด้านการตลาดนั้น จะมีกลุ่มสำหรับซื้อขายปลาทองทางเฟซบุ๊ก รวมถึงหน้าเพจเฟซบุ๊กของทางฟาร์ม มีลูกค้าทั้งในและต่างจังหวัดที่สนใจ ปลาทองสามารถขายได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน ขนาดเท่าข้อนิ้วก้อย แต่ทางฟาร์มของคุณศิริภูมินั้นจะขายปลาทองที่มีขนาด 3 นิ้วขึ้นไป ซึ่งราคาก็จะมีความแตกต่างกันออกไป เริ่มต้นที่หลักร้อยจนถึงหลักพันปลายๆ โดยรายได้ต่อเดือนจะอยู่ที่ 15,000-20,000 บาท
สำหรับท่านใดที่สนใจที่จะซื้อปลาทองหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อ คุณศิริภูมิ มีศิริ ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “ภูมิภูมิฟาร์มปลาทอง” หรือติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 093-138-9447