เชื้อราบิวเวอร์เรีย เป็นเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคกับแมลงได้หลายชนิด โดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและหนอนศัตรูพืช ซึ่งเชื้อราจะสร้างเส้นใยและสปอร์สีเขียว เมื่อสปอร์ของเชื้อราบิวเวอร์เรียตกไปที่ผนังลำตัวของแมลงในช่วงที่มีความชื้นเหมาะสม สปอร์ดังกล่าวจะงอกก้านแทงทะลุผ่าลำตัวแมลงเข้าไปในช่องว่างภายในลำตัวแมลง จากนั้นเชื้อราจะเจริญเพิ่มปริมาณเป็นเส้นใยท่อนสั้น เซลล์เม็ดเลือดในตัวแมลงก็จะถูกทำลาย ทำให้เลือดที่อยู่ในตัวแมลงมีน้อลง หากเชื้อราจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนเต็มช่องว่างของแมลง ทำให้แมลงเป็นอัมพาตและตายในที่สุด หลังจากแมลงตายเชื้อราบิวเวอร์เรียจะแทงก้านชูสปอร์ทะลุผ่านผนังลำตัวออกมาภายนอกแล้วสร้างสปอร์ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ในธรรมชาติ เชื้อราบิวเวอร์เรียสามารถทำลายแมลงได้ทุกระยะ
การใช้เชื้อราบิวเวอร์เรียควบคุมศัตรูพืช
1. เชื้อราบิวเวอร์เรีย 1-2 กิโลกรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
2. นำน้ำส่วนที่ 1 จำนวน 5 ลิตร ผสมกับเชื้อราบิวเวอร์เรีย จำนวน 1-2 กิโลกรัม ทำให้สปอร์เชื้อราหลุดจากเม็ดข้าวโพดแล้วหรองด้วยผ้าบาง
3. นำน้ำส่วนที่ 2 จำนวน 15 ลิตร ผสมกับสารจับใบ คนให้เข้ากัน
4. นำน้ำที่ได้จากข้อ 2 และ 3 มาผสมกันและคนให้เข้ากัน
5. นำไปฉีดพ่นในแปลงที่พบเพลี้ยหรือหนอน โดยให้ฉีดพ่นในช่วงที่มีความชื้นสูง (ช่วงเวลาเย็นที่มีแสงแดดอ่อน หรือตอนเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น)
6. ควรปรับหัวฉีดให้พ่นฝอยละเอียดจะฉีดพ่นได้ผลดีและได้พื้นที่เพิ่มขึ้น
7. สามารถตรวจสอบผลการควบคุมศัตรูพืชได้ หลังจากใช้เชื้อบิวเวอร์เรียไปแล้ว 1-3 วัน
การใช้ประโยชน์
ใช้ควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (ใช้ได้ผลดีระยะตัวอ่อน) เพลี้ยอ่อนส้ม เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยไฟ ไรแดง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ ไรขาว แมลงหวี่ขาว หนอนผีเสื้อ และหนอนค่อมทอง
ที่มา : ศูนย์ฝึกอบรมาเกษตรอินทรีย์-ชีวภาพ จังหวัดอุตรดิตถ์ / หนังสือองค์ความรู้และภูมิปัญญาของชาวบ้านภายใต้โครงการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์