ทับทิมสยาม” ส้มโอสองแผ่นดิน อีกหนึ่งความภูมิใจของคนลุ่มน้ำปากพนัง
23 มี.ค. 2564
5,372
0
ทับทิมสยาม” ส้มโอสองแผ่นดิน อีกหนึ่งความภูมิใจของคนลุ่มน้ำปากพนัง

“ทับทิมสยาม” ส้มโอสองแผ่นดิน อีกหนึ่งความภูมิใจของคนลุ่มน้ำปากพนัง

Facebook
Twitter
Google+
LINE

“ทับทิมสยาม” ส้มโอสองแผ่นดิน อีกหนึ่งความภูมิใจของคนลุ่มน้ำปากพนัง

หากเอ่ยถึง ส้มโอ หลายคนที่ชื่นชอบผลไม้ชนิดนี้อาจเคยได้ยินพันธุ์ “ทับทิมสยาม” แห่งลุ่มน้ำปากพนัง อันเลื่องชื่อ แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าส้มโอทับทิมสยามไม่ใช่พันธุ์ส้มโอดั้งเดิมในพื้นที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่เป็นส้มโอพันธุ์ใหม่ เกิดขึ้นที่บ้านแสงวิมาน ตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง โดยมีการนำพันธุ์พื้นเมืองมาจากจังหวัดปัตตานี มาทดลองปลูก ปรับปรุงพันธุ์ ดูแลรักษา จนได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ สร้างชื่อเสียง กลายเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของคนลุ่มน้ำปากพนังแห่งนี้

ป้าเล็ก-คุณอัมพร สวัสดิ์สุข เจ้าของไร่สวัสดิ์สุข เล่าถึงความเป็นมาของการทำสวนส้มโอว่า เริ่มปลูกส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม เมื่อปี พ.ศ. 2544 เป็นเวลาเกือบ 20 ปีมาแล้วในพื้นที่ 53 ไร่ พื้นที่แห่งนี้สมัยก่อนมีการทำไร่นาสวนผสม แต่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังจึงได้ปรับเปลี่ยนมาปลูกส้มโอ เพราะเป็นพืชที่ทนน้ำขังได้ดี อีกทั้งสภาพดินของที่นี่จะมีแคลเซียมสูง เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากทะเล ทำให้เมื่อมีการปลูกส้มโอจะได้รสชาติส้มโอที่มีความเฉพาะไม่เหมือนใคร คือ รสหวานนุ่ม

ด้านคุณลักษณะเฉพาะของส้มโอทับทิมสยามปากพนัง คือ มีลักษณะประจำพันธุ์ ใบค่อนข้างกว้าง ปลายใบแหลม ใต้ใบมีขนอ่อนนุ่ม ทรงผลกลมมีจุกคล้ายหลอดไฟ ก้นผลป้านเว้าเล็กน้อย ผลโตขนาดเส้นรอบวงประมาณ 18-25 เซนติเมตร ผิวผลเรียบ มีสีเขียวนวลอมเหลืองเป็นมัน ผิวผลมีขนอ่อนนุ่มคล้ายกำมะหยี่ปกคลุมทั่วทั้งผล เมื่อจับเบาๆ จะรู้สึกผิวเปลือกนุ่ม เปลืองบาง เนื้อสีชมพูเข้มถึงแดงคล้ายทับทิม รสชาติหวานและหอมนุ่ม ไม่เหม็นเขียว ผิวผลนิ่มดั่งกำมะหยี่

ส้มโอทับทิมสยาม ยังเป็นผลไม้ที่ปลูกได้เฉพาะพื้นที่ที่มีสภาพดินเหนียว มีธาตุแคลเซียมในดินสูง สภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศใกล้เคียงกับพื้นที่แหล่งกำเนิดการผลิต คือ อำเภอปากพนัง โดยการปลูกต้องยกร่องให้การระบายน้ำได้ดีในพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกได้ประมาณ 30 ต้น การดูแลรักษาง่าย ทนต่อโรค ให้ผลผลิตเร็วใช้ระยะเวลา 3 ปี และให้ผลผลิตต่อเนื่องทั้งปี โดยผลผลิตเมื่ออายุต้น 3 ปี จะเก็บผลได้ประมาณ 20 ผลต่อต้น และเมื่อต้นเจริญเติบโตสมบูรณ์เต็มที่จะเก็บผลได้ประมาณ 250-300 ผลต่อต้น

ป้าเล็ก เล่าอีกว่า จากประสบการณ์การทำสวนส้มโอทับทิมสยาม ทำให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาสร้างองค์ความรู้จนสามารถสร้างแหล่งเรียนรู้ด้านการผลิตส้มโอ และนำมาประยุกต์ใช้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9

ด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ทรงสร้างประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนลุ่มน้ำปากพนังและพื้นที่ใกล้เคียง ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง น้ำแล้ง น้ำเค็ม และปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ

“ประตูน้ำของในหลวงรัชกาลที่ 9 ช่วยกั้นระหว่างน้ำจืดและน้ำเค็ม ทำให้ประชาชนลุ่มน้ำปากพนังสามารถทำกินได้ทั้งการทำสวนในแหล่งน้ำจืดและประมงในแหล่งน้ำเค็ม มาจนถึงทุกวันนี้ จนทำให้เกิดงานประจำปีคืองาน “น้ำพระทัยรินหลั่ง ลุ่มน้ำปากพนังร่มเย็น” เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอีกด้วย”

และด้วยประสบการณ์ความรู้ทั้งทางวิชาการและภูมิปัญญาที่สั่งสมมานาน การบริหารจัดการสวนที่ดี และการคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ยังทำให้ไร่สวัสดิ์สุขของป้าเล็ก ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย และที่ถือเป็นความภาคภูมิใจของไร่สวัสดิ์สุขสูงสุด คือ การเข้ารับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณ วันพืชมงคล เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ในรางวัล เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาการปฏิบัติที่ดีสำหรับพืช

นอกจากนี้ ไร่สวัสดิ์สุข ยังได้รับการรับรองแหล่งผลิตพืช (GAP) ได้ใช้สัญลักษณ์ Q และได้รับการคัดเลือกเป็นผลิตภัณฑ์โอท็อประดับห้าดาว และขอขึ้นทะเบียนจนสามารถจดลิขสิทธิ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI (Geographical Indication) นาม “ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง” อีกด้วย

สนใจเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ส้มโอทับทิมสยามของไร่สวัสดิ์สุข สามารถติดต่อได้ที่ ป้าเล็ก-อัมพร สวัสดิ์สุข หรือ หมายเลขโทรศัพท์ (089) 605-4388

ตกลง