แก้วพวงดวงใจ-แก้วลิลลี่ ไม้ดอกหอม เกษตรกรเมืองปราจีน ผลิตขายมีรายได้ทั้งปี
คุณวินัย ลักษณะวิลาศ เกษตรจังหวัดปราจีนบุรี ให้ข้อมูลว่า จังหวัดปราจีนบุรีมีการทำเกษตรหลายอย่างตั้งแต่พืชไร่ไปจนถึงพืชสวน ซึ่งพืชสวนอย่างทุเรียนปราจีนบุรีเป็นไม้ผลที่สามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดี เพราะการปลูกเป็นไม้ผลที่เน้นคุณภาพ จึงทำให้ในแต่ละฤดูกาลสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี ส่วนการทำเกษตรทางด้านของ ไม้ดอกไม้ประดับนั้น หลังจากปี 2539 เกิดเหตุการณ์ที่ต้นไผ่ในจังหวัดปราจีนบุรีออกดอกทั้งหมด ส่งผลให้ไผ่ซึ่งเป็นสินค้าที่จำหน่ายสร้างรายได้ของเกษตรกรในเวลานั้นตาย จึงได้มีการพลิกวิกฤตในการสร้างรายได้ โดยมีเกษตรกรบางส่วนมาสนในเรื่องของไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ จนเกิดการสร้างรายได้มาจนถึงปัจจุบัน
“เมื่อไผ่ที่เป็นพืชหลัก สร้างรายได้ของเกษตรกรตายในสมัยนั้น จึงทำให้เกษตรกรหลายคนได้พูดคุยกันและหันมาสร้างรายได้จากการทำไม้ดอกไม้ประดับ จนประมาณปี 2542 ได้ตั้งเป็นหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับเฉลิมพระเกียรติ บ้านดงบังขึ้น โดยในถนนสายนี้ทั้งสาย จะมีการทำไม้ดอกไม้ประดับที่มีความประณีตเป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่ต้นโมก ไม้ขุดล้อมต่างๆ โดยการผลิตไม้ประดับก็จะดูตามกลไกตลาดและปรับเปลี่ยนการผลิตไปเรื่อยๆ ตามที่ตลาดต้องการ อย่างช่วงนี้ก็มีความนิยมในต้นแก้วพวงดวงใจ แก้วลิลลี่ เป็นไม้ดอกหอมที่เกษตรกรผลิตเพื่อรองรับตลาดด้วย” คุณวินัย กล่าว
คุณสุระ จันทร์ศิริ เป็นเกษตรกรที่ทำการผลิตไม้ดอกไม้ประดับมาเป็นเวลานาน โดยก่อนหน้านั้นเขาได้ผลิตไม้ประดับชนิดอื่นๆ ก่อน ต่อมาเมื่อเห็นว่าตลาดมีความต้องการต้นแก้วพวงดวงใจและต้นแก้วลิลลี่ เขาจึงได้มาปรับเปลี่ยนทำไม้ที่มีดอกหอม 2 ชนิดนี้ สร้างเป็นรายได้ที่ดีไม่น้อยทีเดียว โดยการผลิตมีทั้งการผลิตให้เป็นไม้ประดับในกระถางและไม้ขุดล้อมที่มีต้นใหญ่ๆ ให้กับลูกค้าได้ต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปี
เปลี่ยนจากสวนไม้ผล เข้าสู่วงการไม้ประดับ
คุณสุระ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนนั้นเริ่มทำอาชีพทางการเกษตรด้านไม้ผลและการปลูกไผ่ ต่อมาไผ่ที่ทำการปลูกเกิดออกดอกและตายยกสวน ทำให้ได้ปรับเปลี่ยนมาปลูกมะนาวและทุเรียน ซึ่งช่วงที่ปลูกทุเรียนสมัยนั้นยังไม่มีลูกค้าเข้ามาซื้อมากนักเหมือนปัจจุบัน จึงได้ปรับเปลี่ยนมาปลูกไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อให้ตรงตามที่ตลาดต้องการ เพราะมีลูกค้าเข้ามารับซื้อถึงสวน จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ยึดอาชีพนี้มาจนถึงปัจจุบัน
“พอมีกลุ่มหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับเฉลิมพระเกียรติ บ้านดงบังเกิดขึ้น กลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น ก็มีการทำไม้ดอกไม้ประดับหลากหลายชนิด ช่วงแรกผมทำต้นโมกจำหน่ายก่อน หลังๆ มา ตลาดเริ่มมีการปรับเปลี่ยน ชอบเป็นไม้ดอกไม้ประดับดอกหอม ผมก็เลยเปลี่ยนมาปลูกเป็นต้นแก้วพวงดวงใจ และต้นแก้วลิลลี่แทน เพราะตลาดเริ่มมาเรื่อยๆ ก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนจากปลูกโมก มาทำเป็นต้นแก้วทั้งหมด” คุณสุระ บอก
ซึ่งต้นแก้วพวงดวงใจและต้นแก้วลิลลี่เป็นไม้ประดับยืนต้นที่สามารถทำเป็นทรงพุ่มได้ดี ผู้ปลูกสามารถตัดแต่งได้ว่าต้องการให้เป็นทรงพุ่มใหญ่เล็กขนาดไหน และที่สำคัญดอกของไม้ 2 ชนิดนี้ เมื่อออกดอกแล้วดอกเป็นช่อที่ส่งกลิ่นหอมไม่น้อยทีเดียว สามารถออกดอกและส่งกลิ่นหอมได้ตลอดทั้งปี
การขยายพันธุ์ เน้นปักชำเป็นหลัก
การผลิตต้นแก้วพวงดวงใจและต้นแก้วลิลลี่ สำหรับการจำหน่ายเพื่อการค้า คุณสุระ บอกว่า ก่อนที่จะทำไม้ออกจำหน่าย จะทำการขยายพันธุ์ให้ได้จำนวนที่มากๆ เสียก่อน วิธีการขยายพันธุ์ที่ง่ายที่สุดคือการปักชำกิ่ง โดยเลือกกิ่งที่มีความสมบูรณ์ ไม่อ่อนและแก่จนเกินไป ตัดจากยอดให้มีความยาวอยู่ที่ 25-30 เซนติเมตร นำกิ่งที่ตัดแล้วมาปักชำลงในถุงเบอร์ 2 เพาะลงในวัสดุปลูกแกลบดำเป็นหลัก ใช้เวลาดูประมาณ 30 วัน รากของไม้ก็จะออกมาอย่างสมบูรณ์ จากนั้นทำการคัดไม้ที่มีความสมบูรณ์นำไปปลูกลงแปลงดิน สำหรับสร้างเป็นไม้ใหญ่ใช้เวลาดูแลในช่วงนี้ประมาณ 10 เดือน จึงจะขุดล้อมส่งจำหน่ายต่อไป
ส่วนไม้ที่ต้องการผลิตสำหรับปลูกในกระถาง ก็จะนำไม้ที่ผ่านการปักชำอายุได้ 30 วัน มาปลูกลงในกระถางเบอร์ 8 ดูแลรดน้ำไปเรื่อยๆ จนไม้มีทรงพุ่มที่สวยใช้เวลาประมาณ 4 เดือน จึงทำการเปลี่ยนไปปลูกลงในกระถางเบอร์ 12 อีกครั้งหนึ่ง เมื่อไม้มีทรงสวยเป็นทรงพุ่มที่ดี สามารถคัดจำหน่ายได้ทันที
“ช่วงที่เราดูแลไม้ ก่อนที่จะได้กำหนดจำหน่ายได้ การบำรุงต้นส่วนใหญ่ ผมก็จะใช้ปุ๋ยคอกเป็นหลัก เพื่อเป็นการบำรุงต้น แต่ถ้าต้องการให้ไม้ออกดอก ก็จะเสริมด้วยปุ๋ยเคมีสูตรเสมอบ้าง เป็นสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ก็ได้ ใส่ทุก 15 วันครั้ง ก็จะช่วยให้ต้นแก้วพวงดวงใจและต้นแก้วลิลลี่ออกดอกดี ทั้งการปลูกลงในกระถางกับการปลูกลงดินภายในแปลง การดูแล ก็จะให้เวลาเท่าๆ กัน ประมาณ 10 เดือน ไม้ก็จะได้ทรงพุ่มทรงต้นที่ดี พร้อมจำหน่ายได้” คุณสุระ บอก
สำหรับเรื่องของโรคและแมลงศัตรูพืช หลักๆ จะมีเป็นจำพวกหนอนที่เข้ามากัดกินใบหรือเพลี้ยบ้างบางฤดูกาล สามารถป้องกันด้วยการหาซื้อยาเคมีภัณฑ์ โดยหาซื้อได้จากร้านทั่วไปมาทำการฉีดพ่น ก็เป็นอีกวิธีการป้องกันไม่ให้ไม้ถูกทำลายจนเกิดความเสียหาย
ในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายไม้ภายในสวน คุณสุระ เล่าว่า เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งปลูกไม้ดอกไม้ประดับ จึงทำให้ตลอดทั้งปี จะมีพ่อค้าแม่ค้าเข้ามารับซื้อถึงภายในสวน โดยเขาจะผลิตไม้ให้ได้จำนวนมากๆ เพื่อจำหน่ายเป็นราคาส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้า เพื่อไปจำหน่ายทำราคาได้อีกทอดหนึ่ง
โดยราคาจำหน่ายต้นแก้วพวงดวงใจและต้นแก้วลิลลี่ เป็นไม้ที่ปลูกอยู่ในกระถางขนาด 12 นิ้ว จำหน่ายแบบราคาส่งอยู่ที่กระถางละ 70-80 บาท และราคาไม้ที่เป็นต้นใหญ่ความสูงอยู่ 2-3 เมตร เป็นไม้ที่ปลูกลงดินและขุดล้อมรากเพื่อรอจำหน่ายต่อไป ทั้งต้นแก้วพวงดวงใจและต้นแก้วลิลลี่ราคาจำหน่ายต่อต้นอยู่ที่ 3,000 บาท โดยราคาจะขึ้นอยู่กับทรงพุ่มที่สวยและความสูงของทรงต้น
“ลูกค้าที่เข้ามารับซื้อก็มีหลายที่ ทั้งภาคอีสาน หรือจะเป็นร้านต้นไม้ตามกรุงเทพมหานคร หรือเขตปริมณฑลมารับที่นี่ ถือว่าไม้ 2 ชนิดนี้ ยังสามารถทำตลาดไปได้เรื่อยๆ เพราะเมื่อปลูกแล้วดอกจะออกเต็มต้นไม่ขาดเลย ที่สำคัญดอกมีกลิ่นหอมอีกด้วย เพราะฉะนั้นคนที่ซื้อไปปลูกแล้วดอกไม่ค่อยออกก็อาจจะต้องมีการใส่ปุ๋ยบ้าง ต้นก็จะสมบูรณ์ ออกดอกมาให้เห็นตลอดทั้งปี ส่วนคนที่จะทำเป็นอาชีพ ถ้าจะให้ยั่งยืนก็ต้องมีการรวมกลุ่มการผลิต จะช่วยให้ทำตลาดได้ดี มีความต่อเนื่องในการส่งสินค้าให้กับลูกค้าไม่ขาดช่วง” คุณสุระ บอก
สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการปลูกต้นแก้วพวงดวงใจและต้นแก้วลิลลี่ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุระ จันทร์ศิริ ณ บ้านเล