สู้สภาวะโลกร้อน ด้วยสมุนไพรฤทธิ์เย็นดูแลสุขภาพ
28 ก.พ. 2567
82
0
สู้สภาวะโลกร้อน ด้วยสมุนไพรฤทธิ์เย็นดูแลสุขภาพ
สู้สภาวะโลกร้อน ด้วยสมุนไพรฤทธิ์เย็นดูแลสุขภาพ

สภาวะโลกร้อน ภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ ทั้งในด้านผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่ชั้นบรรยากาศ ภูมิอากาศ อุณหภูมิ ทำให้รังสียูวีรั่วเข้ามาได้มากขึ้น เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติถี่และรุนแรงขึ้น เกิดจากขาดแคลนอาหารและน้ำ ปัญหามลภาวะ นำมาซึ่งความเจ็บป่วย อาการแพ้ ผลกระทบต่อดวงตา ผิวหนัง โรคระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร โรคทางจิตประสาท โรคซาร์ส โรคเมอร์ส เป็นต้น และโรคปัจจุบันทันด่วนอย่างลมแดด (heat stroke) ที่เราคาดเดาไม่ออกว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร เป็นเรื่องที่เราต้องทำความรู้จัก สร้างความเข้าใจ ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรดูแลสุขภาพในสภาวะโลกร้อน

วิธีการใช้สมุนไพรในสภาวะโลกร้อน


สมุนไพรรสหอม ถนอมใจ เมื่อไฟกำเริบ

ภาวะโลกร้อนอาจนำมาซึ่งอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ ความเครียด หงุดหงิดง่าย อาการเหล่านี้สามารถดีขึ้นได้ด้วยสมุนไพรรสหอมสุขุม โดยการกินยาหอมชนิดต่างๆ เป็นประจำ

ลมแดด

สามารถบรรเทาอาการได้โดย ค่อยๆ ลดความร้อนร่างกายลง ใช้ผ้าชุบน้ำประคบตามตัว ศีรษะ ข้อพับ รักแร้ พัดระบายความร้อน หรือใช้สมุนไพรฤทธิ์เย็น เช่น บัวบก ว่านกาบหอย อัญชัน ผักปลาบ ผักปลัง ตำกับน้ำสุมหัวหรือชโลมตามตัว แต่ต้องระวังอย่าลดความร้อนอย่างรวดเร็ว เช่น ราดน้ำเย็น ดื่มน้ำเย็นจัด จะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน อาจช็อกและเสียชีวิตได้


อัญชัน
  มะขามป้อม
สมุนไพรดูแลดวงตา

เพื่อบำรุงและชะลอความเสื่อมของดวงตา โดยกินสมุนไพรเหล่านี้เป็นประจำ เช่น ผักบุ้ง อัญชัน ดาวเรือง มะเขือเทศ บัวบก ขมิ้นชัน มะขามป้อม งาขี้ม่อน เป็นต้น

สมุนไพรบรรเทาอาการท้องเสีย

ฟ้าทลายโจร : กินครั้งละ 500 มิลลิกรัม ถึง 2 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน

สมุนไพรแก้แพ้ แก้ไอ

ผักเบี้ยใหญ่ : เอาส่วนเหนือดิน โขลกคั้นน้ำ ผสมน้ำผึ้ง จิบแก้หวัด ไอ

เสนียด : ใช้ใบบดใส่น้ำผึ้งกิน หรือใช้ใบเสนียด ต้มใส่รากกะเม็ง ต้มเคี่ยวกินแก้หวัด ไอ

มะเขือเทศ : กินมะเขือเทศ หรือน้ำมะเขือเทศเป็นประจำ ทำให้อาการภูมิแพ้ดีขึ้นได้

หูเสือ : ใช้ใบ 4-5 ใบ ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มกับน้ำ 1 ลิตร ผสมน้ำผึ้งหรือเกลือเล็กน้อย จิบบ่อยๆ แก้ไอ

ลิ้นมังกร : ใช้ใบสดประมาณ 7-8 ใบ หรือใบแห้งประมาณ 15 กรัม ต้มน้ำดื่มแก้ไอ

ตำลึง : ขยี้ใบทาบริเวณที่มีอาการคัน ผื่นแพ้

ผักบุ้ง : ใบตำพอกแก้ผื่นคัน

ชบา : ดอกขยี้ทาบริเวณผื่นคัน

ลิ้นมังกร
  ผักบุ้ง
สมุนไพรเอาใจผิว แก้สิวฝ้า

ผักเบี้ยใหญ่ : นำต้นผักเบี้ยใหญ่มาตำพอกหน้าเป็นประจำ บำรุงผิว แก้สิวฝ้า

มะขามเปียก : เนื้อมะขามเปียกขยี้กับน้ำพอกหน้า 15-20 นาที ล้างออก ทำให้ผิวเนียนสวย

มะขามป้อม : ฝนผลหรือกิ่งกับน้ำซาวข้าวส่วนที่นอนก้นทิ้งไว้ ทาเป็นประจำก่อนนอน แล้วล้างออกในตอนเช้า ช่วยลดริ้วรอย แก้ฝ้า

ว่านตาลเดี่ยว : หัวฝนทาหน้า แก้สิว แก้ฝ้า

มะเขือเทศ : กินมะเขือเทศ หรือน้ำมะเขือเทศเป็นประจำ ช่วยบำรุงผิว

แตงกวา : นำแตงกวามาพอกผิวหน้าลดอาการไหม้จากแสงแดดได้

ว่านหางจระเข้ : นำส่วนวุ้นของว่านหางจระเข้มาพอกผิวเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง

บานเย็น : แป้งจากเนื้อในเมล็ดดอกบานเย็นทาหน้าแก้ฝ้า บำรุงผิว

ประดู่ทุ่ง : รากประดู่ทุ่ง แป้งข้าวเหนียว น้ำมะนาว ผสมกันพอกหน้า ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ

ชบา : ใช้ดอกขยี้ทาหน้าแก้สิว ฝ้า

มะเขือเทศ
สมุนไพรไล่ยุงแมลง

ตะไคร้หอม : ใช้ตะไคร้หอมทั้งต้นมาทุบให้แตกและวางไว้ตามมุมต่างๆ หรือทาผิวไล่ยุงได้ดี

ดอกบานเย็น : ขยี้ดอกทาตัวหรือขยี้ดอกวางไว้ใกล้ตัว ช่วยไล่ยุง

สะระแหน่ : ใช้ใบบดขยี้ให้กลิ่นน้ำมันหอยระเหยออกมา ไปวางตามที่ที่มียุงเยอะๆ หรือทาผิวกันยุง

มะกรูด มะนาว : ใช้ผิวเปลือกโขลกกับน้ำทาผิว หรือใช้ฉีดพ่นตามจุดต่างๆ ของบ้าน

ส้ม : เปลือกแห้งเผาไฟ ใช้ไล่ยุงและแมลง มีกลิ่นหอม

ข่า : เหง้าทุบให้แตก ทาผิวช่วยป้องกันยุงกัด

สมุนไพรฤทธิ์เย็น เด่นแก้ร้อนใน ต้านอนุมูลอิสระ

เมื่อมีอาการร้อนในอย่าปล่อยทิ้งไว้ คิดถึงสมุนไพรฤทธิ์เย็นที่มีอยู่มากมายหลายชนิด เป็นพืชผักใกล้ตัวที่หาง่ายกินอร่อย เช่น บัวบก หญ้าปักกิ่ง ผักปลาบ อัญชัน ลิ้นมังกร ตำลึง สำรอง ผักหวาน ดอกแค รากบัว ว่านหางจระเข้ เป็นต้น

 

ตกลง