กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดโครงการ “พัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2567 สืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธาน สร้างความมั่นคงและประโยชน์สุขแก่ประชาชนอย่างยั่งยืน
17 มิ.ย. 2567
36
0
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดโครงการ “พัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2567 สืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธาน สร้างความมั่นคงและประโยชน์สุขแก่ประชาชนอย่างยั่งยืน

 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดโครงการ “พัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2567 สืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธาน สร้างความมั่นคงและประโยชน์สุขแก่ประชาชนอย่างยั่งยืน
       วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน 2567 เวลา 09.30 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานโครงการ “พัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนปลัดกระทรวงกลาโหม นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี และผู้บริหารทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ จุดชมวิวรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมถ่ายทอดสดพิธีเปิดและกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศ 28 จุด (จังหวัด)
      สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมบูรณาการภายใต้ความร่วมมือจากอีก 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมน้อมนำพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้ชื่องาน โครงการ “พัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ซึ่งเป็น 1 ใน 10 โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในนามรัฐบาล เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ ให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตของประชาชน โดยมีกิจกรรมหลัก 3 กิจกรรม ได้แก่ โครงการขุดลอกคลองส่งน้ำ จำนวน 30 แห่ง โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำ จำนวน 14 แห่ง และโครงการก่อสร้างแหล่งน้ำและระบบส่งน้ำ อาทิ ฝายทดน้ำและระบบส่งน้ำ เพื่อชุมชนและพื้นที่ห่างไกล อีกจำนวน 28 แห่ง รวมพื้นที่ดำเนินโครงการฯ ทั้งสิ้น 72 แห่ง ครอบคลุม 47 จังหวัดทั่วประเทศ พื้นที่รับประโยชน์กว่า 202,630 ไร่ ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ 18.14 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 17,496 ครัวเรือน สามารถบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค รวมไปถึงการเกษตร สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน อันเป็นการสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระราชประสงค์ให้ประชาชน ทุกหมู่เหล่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนสืบไป
      จังหวัดเชียงใหม่ กำหนดพิธีเปิดโครงการพัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมกับส่วนกลางซึ่งถ่ายทอดสดพิธีเปิดและกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนหน่วยงานภาคีเครือข่าย จิตอาสาพระราชทาน 904 ข้าราชการ ลูกจ้าง และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมพิธีเปิดโครงการฯ โดยพร้อมเพรียงกัน ในการนี้ นางณัฐธัญ กาหลง เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมพิธีฯ ดังกล่าว ณ บริเวณแปลงเกษตรกร โครงการเกษตรวิชญา ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
      ทั้งนี้ ภายในงานฯ ประกอบด้วย กิจกรรมปรับปรุงฝายห้วยช้างตาย พร้อมระบบส่งน้ำและอาคารประกอบ จัดหาแหล่งน้ำให้โครงการเกษตรวิชญา และกิจกรรมปลูกหญ้าแฝก บริเวณแปลงเกษตรทำกินบ้านกองแหะ และบริเวณทางเข้าฝายห้วยช้างตาย พร้อมระบบส่งน้ำและอาคารประกอบที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมน้อมนำพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อช่วยให้เกษตรกรและประชาชนสามารถมีปริมาณน้ำเพิ่มเติม เพียงพอในช่วงฤดูแล้ง และสามารถกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝน ตลอดจนทุกหน่วยงานได้ร่วมกันบริหารจัดการน้ำร่วมกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีมีสุข

ตกลง