ปลูกพริกระวังแมลงหวี่ขาวเพลี้ยไฟพริกบุกสวน
แมลงหวี่ขาว
ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยง บริเวณใบ และเป็นพาหะนำโรคที่เกิดจากไวรัส ทำให้ใบพริกหงิก ซีดด่าง หรือ ใบหงิกเหลือง ยอดไม่เจริญ และต้นพริกไม่สมบูรณ์ ผลพริกที่ได้ไม่มีคุณภาพ
แนวทางป้องกัน/แก้ไข
ใช้สารฆ่าแมลง อิมิดาโคลพริด ๑๐% เอสแอล อัตรา ๔๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตรหรือ ฟิโพรนิล ๕% เอสซี อัตรา ๔๐ มิลลิลิตรต่อ น้ำ ๒๐ ลิตร พ่นซ้ำตามการระบาด
เพลี้ยไฟพริก
เพลี้ยไฟพริกตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยง จากยอด ใบอ่อน ตาดอก และดอก ทำให้ใบ หรือยอดอ่อนหงิกขอบใบหงิกหรือ ม้วนขึ้นด้านบน ถ้าเข้าทำลายระยะพริกออกดอก จะทำให้ดอกพริกร่วงไม่ติดผล การทำลายในระยะผล จะทำให้รูปทรงของผลบิดงอ ถ้าการระบาด รุนแรงพืชจะชะงักการเจริญเติบโตหรือแห้งตายในที่สุด
แนวทางป้องกัน/แก้ไข
๑. สุ่มสำรวจพริก ๑๐๐ ยอด ต่อไร่ ทุกสัปดาห์ โดยเคาะลงบนแผ่นพลาสติกสีดำ และทำการป้องกันกำจัดเมื่อพบเพลี้ยไฟพริกเฉลี่ยมากกว่า ๕
ตัวต่อยอด ในขั้นต้นควรเพิ่มความชื้นโดยการให้ น้ำ อย่าปล่อยให้พืชขาดน้ำ เพราะจะทำให้พืชอ่อนแอ และเพลี้ยไฟพริกจะระบาดอย่างรวดเร็ว
๒. ใช้สารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดแหล่งปลูกใหม่ พ่นด้วยคาร์บาริล ๘๕%ดับเบิ้ลยูพี อัตรา ๒๐-๓๐ กรัมต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
พ่นซ้ำตามการระบาดแหล่งปลูกเดิม พ่นด้วยฟิโพรนิล ๕% เอสซีอัตรา ๒๐-๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ อีมาเมกตินเบนโซเอต ๑.๙๒% อีซี อัตรา ๒๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ อิมิดาโคลพริด ๑๐% เอสเอล อัตรา ๒๐-๔๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร พ่นซ้ำตามการระบาด
** ขณะพ่นสารควรปรับหัวฉีดให้เป็นฝอยที่สุดและพ่นให้ทั่วตามส่วนต่างๆ ของพืชที่เพลี้ยไฟพริกอาศัยอยู่ กรณีระบาดรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เมื่อสภาพอากาศแห้งแล้ง ควรใช้ปุ๋ยทางใบ เพื่อช่วยให้ ต้นพริกฟื้นตัวจากอาการใบหงิกได้ดีและเร็วยิ่งขึ้น