เทคนิค การปลูกระเจี๊ยบแดง
15 พ.ย. 2567
2
0
เทคนิค การปลูกระเจี๊ยบแดง
เทคนิค การปลูกระเจี๊ยบแดง

เทคนิค การปลูกระเจี๊ยบแดง

     กระเจี๊ยบแดง จัดเป็นสมุนไพรนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนทาน สามารถเจริญเติบโตได้ดีในหลายสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น มีแสงแดดจัด และดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดี จะทำให้เจริญเติบโตได้ดี

     ในการปลูกกระเจี๊ยบแดงควรเริ่มจากการเตรียมดินก่อน โดยทำการไถดะเพื่อเปิดหน้าดิน หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ จึงไถแปรเกลี่ยดินให้เรียบเสมอกัน โดยใช้ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยอินทรีย์ผสมพร้อมการพรวนดินให้ร่วน แต่หากดินดีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยก็ได้เช่นกัน

     สำหรับการขยายพันธุ์ หากเกษตรกรเก็บเมล็ดพันธุ์เอง ให้คัดเลือกจากต้นพันธุ์ที่มีกลีบดอกสีแดงเข้ม กลีบเลี้ยงหนา โดยนำเมล็ดไปแช่น้ำ แล้วคัดเมล็ดที่ลอยน้ำทิ้ง เก็บไว้เฉพาะเมล็ดที่จมน้ำ และนำขึ้นผึ่งลมจนแห้งก่อนนำไปปลูก

     การปลูกสามารถทำได้โดยนำเมล็ดไปหยอดลงหลุม หลุมละประมาณ 3-5 เมล็ด เว้นระยะห่างระหว่างต้น 1 เมตร และระหว่างแถว 1-1.5 เมตร ใน 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 400 ต้น ซึ่งช่วงที่เหมาะสมในการปลูกกระเจี๊ยบจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน และจะเริ่มออกดอกในเดือนตุลาคม และจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในเดือนมกราคม ซึ่งจะมีอายุประมาณ 120 วัน

     สำหรับการดูแล สามารถใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยอินทรีย์ ในช่วงที่เริ่มเจริญเติบโต โดยมีอายุประมาณ 10-15 วัน และ 40-50 วัน แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เพราะจะทำให้ใบและฝักโตเร็วเกินไป เป็นโรคง่าย

     ส่วนการให้น้ำ ในระยะ 1-2 เดือนแรกควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อผ่านระยะนี้ไปแล้วต้นกระเจี๊ยบจะสามารถทนต่อความแห้งแล้งได้ดี ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโตของต้นกระเจี๊ยบแดง ประกอบด้วย วัชพืช โรค และแมลง ดังนั้นจึงควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดโอกาสเกิดความเสียหาย ส่วนโรคที่พบบ่อย ได้แก่ โรคใบจุด โรคฝักจุด หรือฝักลาย และโรคแอนแทรคโนส หากพบให้กำจัดโดยใช้เชื้อบาซิลลัส ซับทีลิส (Bacillus substilis หรือ บีเอส) พ่นในอัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร

     สำหรับแมลงรบกวนมักพบเป็นหนอนกระทู้หอม หนอนเจาะสมอฝ้าย เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน และเพลี้ยจักจั่นฝ้าย สามารถกำจัดได้โดยใช้เชื้อ BT (Bacillus thuringiensis) ในอัตรา 60-80 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือใช้สารธรรมชาติ เช่น เมล็ดสะเดาพ่นในอัตรา 1 กิโลกรัมต่อน้ำ 20 ลิตร

     การเก็บเกี่ยวสามารถทำได้ 2 แบบ คือ เก็บเฉพาะดอกกระเจี๊ยบแดง โดยใช้กรรไกรหรือมีดตัดเฉพาะดอกที่แก่ แล้วใส่ในภาชนะที่มีวัสดุรอง หรือเก็บเกี่ยวทั้งต้น โดยใช้เคียวเกี่ยวบริเวณโคนกิ่ง

     หลังเก็บเกี่ยวให้นำดอกไปแทงเมล็ดออก โดยใช้เหล็กกระทุ้งแทงบริเวณขั้วให้เมล็ดหลุดออกจากกระเปาะหุ้มเมล็ด ส่วนที่เหลือเป็นกลีบเลี้ยง หรือกลีบดอก ให้นำกลีบดอกไปตากแดดนาน 4-7 วันจนแห้งสนิท โดยตากบนชั้นที่สูงจากพื้นดินประมาณ 60- 70 เซนติเมตร และคลุมด้วยผ้าขาวบางเพื่อป้องกันฝุ่น ก่อนนำกระเจี๊ยบแดงที่แห้งสนิทแล้วมาบรรจุถุง ปิดปากให้สนิท และนำเข้าจัดเก็บในห้องที่สะอาด เย็น และไม่อับชื้น


ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร

ตกลง