ทายาทสวนส้มโอเวียงแก่น วัย 25 ปี พัฒนาผลผลิตคุณภาพเป๊ะ ฟันรายได้เกือบล้าน
4 ก.ค. 2567
48
0
ทายาทสวนส้มโอเวียงแก่น
ทายาทสวนส้มโอเวียงแก่น วัย 25 ปี พัฒนาผลผลิตคุณภาพเป๊ะ ฟันรายได้เกือบล้าน

ส้มโอเวียงแก่น เป็นส้มโอที่มีคุณภาพ นิยมปลูกกันในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ด้วยลักษณะสภาพภูมิประเทศที่อยู่สูง ประกอบกับสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี และด้วยมีสภาพดินที่เกิดจากการทับถมของตะกอนแม่น้ำโขงและแม่น้ำงาว มาเป็นระยะยาวนาน จึงทำให้ดินมีแร่ธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก

เมื่อเกษตรกรมีการนำส้มโอมาปลูกในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จึงทำให้ผลผลิตส้มโอมีคุณภาพสูง เป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างชื่อเสียงให้แก่อำเภอเวียงแก่น และจังหวัดเชียงรายมาโดยตลอด โดยเฉพาะส้มโอที่ปลูกในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น ทั้ง 3 สายพันธุ์ จะมีลักษณะเฉพาะตัว ดังนี้

พันธุ์ทองดี เปลือกบาง เนื้อหรือกุ้งจะมีสีชมพูอ่อน เนื้อนิ่มฉ่ำน้ำ หากทิ้งไว้ยิ่งนานก็จะยิ่งมีรสชาติหวาน
พันธุ์ขาวใหญ่ เนื้อหรือกุ้งแน่น มีน้ำมากแต่ไม่แฉะ รสชาติหวานอมเปรี้ยว เมล็ดน้อย สามารถแกะออกจากเปลือกง่าย
พันธุ์เซลเลอร์ เป็นส้มโอลูกผสมที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เนื้อในสีแดง แต่ไม่เข้มเท่ากับพันธุ์ทับทิมสยาม เป็นส้มโอที่รสชาติหวานและมีกลิ่นหอมเฉพาะ เป็นที่ชื่นชอบของคนในต่างประเทศอย่างมาก

คุณจุฬาลักษณ์ เรียงยาย หรือ คุณมิลค์ ทายาทเจ้าของสวนส้มโอวิชัย อยู่ที่บ้านทุ่งคำ ตำบลหล่ายงาว อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เกษตรกรรุ่นใหม่วัย 25 ปี เรียนจบภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาต่อยอดพัฒนาสวนส้มโอของพ่อ ทั้งในด้านของคุณภาพและการตลาด ตั้งเป้าภายในปี 2567 พื้นที่ปลูกส้มโอจำนวน 15 ไร่ จะต้องสร้างรายได้ให้ถึงหลักล้าน

คุณมิลค์ เล่าให้ฟังว่า หากย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ก่อนที่พ่อกับแม่จะมาทำสวนส้มโอ ท่านเคยปลูกข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลังมาก่อน แต่ได้ผลตอบแทนกลับมาไม่ดีเท่าที่ควร จึงได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่มาปลูกส้มโอตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ พร้อมทั้งสนับสนุนต้นพันธุ์ส้มโอให้มาทดลองปลูก พอปลูกแล้วได้ผลผลิตดีกว่าการปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด และมันสำปะหลัง จึงเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนพื้นที่นา มาปลูกส้มโอจำนวน 15 ไร่ โดยเลือกปลูกส้มโอสายพันธุ์ทองดีเป็นหลัก จำนวน 12 ไร่ และพื้นที่ที่เหลืออีก 3 ไร่ เป็นปลูกเป็นสายพันธุ์ ขาวใหญ่ เซลเลอร์ และทับทิมสยาม

ซึ่งสาเหตุที่เลือกปลูกสายพันธุ์ทองดีเป็นหลัก เนื่องจากเมื่อ 30 ปีที่แล้ว “ทองดี” เป็นสายพันธุ์ที่ตลาดนิยมซื้อ นิยมกินมากที่สุดและเป็นสายพันธุ์ที่ต้านทานโรคและแมลงได้ดี ปลูกและดูแลง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นๆ โดยจุดเด่นส้มโอของที่สวนที่ปลูกอยู่ทั้งหมด 4 สายพันธุ์ ได้แก่ ทองดี ขาวใหญ่ เซลเลอร์ และทับทิมสยาม ที่นอกเหนือจากจุดเด่นเรื่องของรสชาติแล้ว ความพิเศษอยู่ที่ผิวของส้มโอ ที่สวนส้มโอวิชัยสามารถทำมาตรฐานผิวส้มโอให้สวยเนียน ไม่มีที่ติได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผลผลิตทั้งหมด เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่การดูแลเอาใจใส่ และการฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดแมลงให้ถูกช่วง ถูกจังหวะ

เทคนิคการปลูกส้มโอผิวสวย มาตรฐานส่งออก
ส้มโอสามารถปลูกได้ดีในดินเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นดินเหนียว ดินทราย ดินปนทราย ที่ระบายน้ำได้ดี น้ำไม่ท่วมขังแฉะ แต่คุณภาพผลผลิตแตกต่างกันไป พื้นที่ปลูกที่ทำให้ส้มโอเจริญงอกงามดี ผลดก และมีคุณภาพดีควรปลูกในพื้นที่ดินโปร่งร่วนซุย มีอินทรียวัตถุอยู่มาก

คุณมิลค์ บอกว่า โดยมากพื้นที่ปลูกส้มโอของสวนเป็นดินเหนียว เพราะเคยเป็นพื้นที่นามาก่อน จะมีการเตรียมดินก่อนปลูกโดยการไถพรวน แล้วโรยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ให้ทั่วแปลง เสร็จแล้วทำการวางระบบน้ำสปริงเกลอร์ แล้วเปิดรดน้ำเพื่อสะสมอาหารในดิน ให้จุลินทรีย์เจริญเติบโต หรือเรียกว่าเป็นการหมักดินก่อนปลูกสักประมาณ 1 เดือน

หลังจากหมักดินทิ้งไว้ครบ 1 เดือนแล้ว ทำการขุดหลุมปลูก รองก้นหลุมด้วยปูนขาว ปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 6×6 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 45 ต้น

การดูแลรดน้ำ
ในระยะที่ปลูกส้มโอใหม่ๆ ต้องหมั่นให้น้ำสม่ำเสมอจนกว่าจะตั้งตัวได้ เมื่อส้มโอเจริญเติบโตดีแล้วให้น้ำเป็นครั้งคราวเมื่อจำเป็น อย่างของที่สวนในช่วงเริ่มต้นปลูกเดือนแรกจะให้น้ำประมาณ 15-30 นาที วันเว้นวัน จากนั้นเมื่อเริ่มเข้าสู่เดือนที่ 2 ต้นเริ่มใหญ่มากขึ้นจะปรับการให้น้ำ จากวันเว้นวันเป็น 5 วันครั้ง และพอต้นเจริญเติบโตไปอีกก็ปรับการให้น้ำอีกเป็นอาทิตย์ละครั้ง

“ส้มโอถือเป็นพืชทนแล้ง ต้นยิ่งโตยิ่งไม่ต้องรดน้ำมาก แต่อย่าให้ขาด โดยเฉพาะช่วงติดดอกออกผลเป็นต้นไป เราไม่ควรทิ้งน้ำเลย ถ้าทิ้งน้ำปล่อยให้ดินแห้ง จะส่งผลทำให้ผลผลิตแคระแกร็น เพราะพืชต้องการน้ำในการเจริญเติบโต เพราะฉะนั้นในช่วงที่กำลังติดผล เราให้น้ำอาทิตย์ละครั้ง นาน 2 ชั่วโมง” 

การบำรุงใส่ปุ๋ย
เริ่มใส่ปุ๋ยตั้งแต่เดือนแรกที่ปลูก โดยที่สวนจะใส่ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 สลับกับปุ๋ยปรับปรุงดิน ใส่ทุกเดือน เดือนละครั้ง ไปจนอายุต้นครบ 3 ปี หรือยังไม่ให้ผล ปริมาณการใส่ช่วง 1-3 เดือนแรก ใส่ในอัตรา 2 ขีดต่อต้น แต่หลังจาก 4 เดือนขึ้นไปจะเพิ่มอัตราการใส่ตามอายุและขนาดของต้น

เมื่อส้มโอให้ผลแล้วเมื่ออายุ 4 ปีขึ้นไป ส้มโอเริ่มติดดอกออกผลมากขึ้น ในช่วงแรกควรไว้ผลไม่เกิน 20 ผลต่อต้น ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ผสมกับปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 และปุ๋ยอินทรีย์ เดือนละ 1/2 กิโลกรัมต่อต้น วิธีการใส่ปุ๋ยโรยบนพื้นดินภายในบริเวณทรงพุ่ม แต่ระวังอย่าใส่ปุ๋ยให้ชิดกับโคนต้น เพราะปุ๋ยจะทำให้เปลือกรอบโคนต้นส้มโอเน่าและอาจทำให้ส้มโอตายได้

การกำจัดวัชพืช
ในสวนส้มโอทุกแห่งมักจะมีปัญหาจากวัชพืชที่ขึ้นรบกวน ถ้ามีจำนวนมากก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมโรคและแมลง จำเป็นต้องคอยควบคุมอย่าให้มีวัชพืชมาก แต่การกำจัดหญ้าหรือวัชพืชอื่นให้หมดไปเลยก็ไม่ดี ควรให้มีเหลืออยู่บ้างช่วยยึดดินไม่ให้หน้าดินพังทลาย รวมทั้งช่วยป้องกันการระเหยของน้ำได้อีกด้วย

“ที่สวนเราจะให้ความสำคัญเรื่องของความสะอาดมาก จะไม่ปล่อยให้วัชพืชขึ้นรกเด็ดขาด จะมีการจัดการตัดหญ้าทุกเดือน แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนวัชพืชจะขึ้นเร็วหน่อย ก็จะตัดเดือนละ 2 ครั้ง หรือแม้กระทั่งตอนตัดแต่งกิ่ง จะไม่ปล่อยให้ใบหล่นลงมาทับถมที่โคนต้นเยอะ เพราะจะเป็นแหล่งสะสมโรคและแมลง สวนของเราจะดูแลให้สะอาดอยู่สม่ำเสมอ”

การป้องกันกำจัดศัตรูพืช
ส้มโอเป็นพืชที่มีโรคแมลงรบกวนมาก ชาวสวนจึงต้องให้ความสนใจในการป้องกันกำจัดโรคแมลงให้ดีที่สุด โดยแมลงศัตรูพืชที่พบเจอหลักๆ คือ เพลี้ยไฟ ไรแดง ในช่วงติดดอก และส้มโอกำลังติดผลอ่อน ที่สวนจะใช้วิธีป้องกันและกำจัดด้วยการฉีดพ่นสารกำจัดเพลี้ยไฟ ทุก 2 อาทิตย์ หรือเข้าทำลายตามช่วงฤดู หากเป็นในช่วงฤดูร้อนเพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย จะระบาดหนัก ส่วนหน้าฝนจะเป็นช่วงระบาดของเพลี้ยนาสาร เพราะฉะนั้นประเด็นสำคัญของการปลูกส้มโอให้ได้คุณภาพ ผิวสวย อยู่ที่ขั้นตอนการป้องกันกำจัดศัตรูพืชให้ถูกช่วง และตรงกับโรคแมลงที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นๆ ด้วย 

ปริมาณผลผลิต ผลผลิตเริ่มเก็บได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม ต้นอายุ 20 ปีขึ้นไป ให้ผลผลิตอยู่ที่ 100-150 ลูกต่อต้น น้ำหนักเฉลี่ยต่อผลอยู่ที่ 1.5-3 กิโลกรัม และในส่วนของต้นอายุ 10 ปี ผลผลิตอยู่ที่ประมาณ 100 ลูกต่อต้น 

ขายส่งล้ง ทำตลาดออนไลน์ อนาคตติดต่อส่งออกเอง
สำหรับการตลาด คุณมิลค์ บอกว่า ที่ผ่านมาพ่อกับแม่เก็บผลผลิตส่งล้งใกล้บ้าน ในอำเภอเวียงแก่นเป็นหลัก จนมาถึงปัจจุบันตนเองได้มีการขยายช่องทางการขายให้มากขึ้น โดยการผลิตส้มโอเกรดพรีเมี่ยมส่งขายตลาดออนไลน์เพื่อสร้างมูลค่า และเปิดรับพ่อค้าแม่ค้าให้เข้ามาซื้อถึงสวน รวมไปถึงในอนาคตมองไปถึงการติดต่อส่งออกผลผลิตไปยังต่างประเทศเอง เพื่อลดปัญหาโดนล้งกดราคา

ด้านราคาขาย 1. พันธุ์ทองดีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 18 นิ้วขึ้นไปเป็นเบอร์ 1 ปีนี้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 11-15 บาท และถ้าต่ำลงมา 12-18 นิ้ว เป็นเบอร์ 2 ราคากิโลกรัมละ 7 บาท 2. พันธุ์ขาวใหญ่ เบอร์ 1 ปีนี้ราคากิโลกรัมละ 25 บาท เบอร์ 2 กิโลกรัมละ 15 บาท 3. พันธุ์เซลเลอร์ ราคาเท่าๆ กับทองดี เบอร์ 1 ปีนี้ราคากิโลกรัมละ 11-15 บาท เบอร์ 2 ราคากิโลกรัมละ 7 บาท และ 4. พันธุ์ทับทิมสยาม ปีนี้ราคากิโลกรัมละ 12-15 บาท ซึ่งในแต่ละปีราคาจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงไม่เหมือนกัน

โดยปีนี้คาดการณ์รายได้อยู่ที่ประมาณ 700,000-800,000 บาท เป็นรายได้ที่พออยู่ได้ แต่ส่วนตัวยังไม่พอใจ เพราะคิดว่าเราสามารถสร้างมูลค่าจากตรงนี้ได้มากกว่านี้ จึงตั้งเป้าหมายไว้ว่าในปี 2567 จะต้องทำรายได้ให้แตะหลักล้าน คุณมิลค์ กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 093-730-8684 หรือช่องทางเฟซบุ๊ก : สวนส้มโอวิชัย

ที่มา : เว็บไซต์เทคโนโลยีชาวบ้าน  www.technologychaoban.com

ตกลง