เทคนิคการเพิ่มกำไร
โดยการจัดการดิน"
๑. การลดต้นทุนด้านการจัดการสภาพพื้นที่
และเตรียมดิน
ข้อคิด : การปลูกพืชในพื้นที่ที่มีดินเหมาะสมจะทำให้พืชเจริญเติบโตดี มีความแข็งแรง จะช่วยให้ได้ผลผลิตสูงและลดต้นทุนในการแก้ไขปัญหาดิน
ดังนั้นก่อนทำการปลูกพืช จึงควรศึกษาข้อจำกัดของสภาพพื้นที่ปลูกพืชเช่น สภาพดิน สภาพน้ำ และมีการตัดสินใจเลือกชนิดพืชได้เหมาะสมกับพื้นที่ จะเป็นการป้องกันความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วม หรือขาดน้ำ ซึ่งปัญหา
จากการปลูกพืชไม่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่มักเป็นปัญหาเรื้อรังต้องเสียเงินลงทุนแก้ไขจำนวนมาก และมักจะได้ผลไม่คุ้มค่าเช่น การปลูกยางพาราในพื้นที่นาลุ่ม เป็นต้น
ดินดี คือ ในดินทั้งหมด 100 ส่วน ควรมีสมดุลของสัดส่วนต่าง ๆ คือส่วนที่เป็นเนื้อดิน ๔๕ ส่วน อินทรียวัตถุ๕ส่วน
น้ำ ๒๕ ส่วน และอากาศอีก ๒๕ ส่วน ดินไม่แน่น มีความร่วนซุย มีหน้าดินลึก วิเคราะห์ทางเคมีจะพบปริมาณอินทรีวัตถุไม่น้อยกว่า ๑.๕ % มีระดับความเป็นกรดด่าง (pH) ๖-๗ พบสิ่งมีชีวิตในดิน เช่น ไส้เดือน เป็นต้น
หลักการในการลดต้นทุนการผลิตด้านการจัดการดินและเตรียมดิน มีดังนี้
๑. ตรวจวิเคราะห์ดินปีละครั้ง เพื่อติดตามสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดิน
๒. บำรุงดินเป็นประจำ โดยใส่ปุ๋ยอินทรี ปุ้ยหมัก ปุ๋ยคอก
ปลูกพีชบำรุงดิน หรือไถกลบตอซัง จะช่วยให้ดินดีขึ้นในระยะยาว พืซบำรุงดิน เช่น ปอเทืองให้น้ำหนักสด ๒-๔ ตันต่อไร่ ถั่วพร้าให้น้ำหนักสด ๔-๖.๕ ตันต่อไร่ ถั่วพุ่มให้น้ำหนักสด ๑.๖-๒.๕ ตันต่อไร่
๓. แก้ไขดินที่เป็นกรดเกินไป คือ ดินที่วัดค่าความเป็นกรดด่าง (PH) ได้น้อยกว่า ๕.๕ พืซจะไม่สามารถนำธาตุอาหารไปใช้ได้เต็มที่ เนื่องจากจะถูก
ยึดติดไว้กับเม็ดดิน ควรปรับสภาพดินกรดให้มีค่าความเป็นกรดด่าง ๕.๕-๗ ด้วยการใส่ปูนขาวหรือโดโลไมท์
๔.เตรียมดินให้ถูกวิธี โดยไถตากดินจนแน่ใจว่าได้กำจัดวัชพืชได้หมด ไถดินให้ละเอียดหรือเตรียมหลุมปลูกให้เหมาะสมกับชนิดพืช
๕. รักษาความชื้นของดิน เช่น ใช้ฟางคลุม หรือให้มีหญ้าปกคลุมในหน้าแล้ง
๖. ป้องกันการชะล้าง ในที่ลาดชันควรมีการทำขั้นบันใดเพื่อลดการซะล้าง และปลูกแฝก