ขี้เถ้าที่หลายๆ คนมักคิดว่าไร้ค่า แต่มีประโยชน์สำหรับพืชมาก ใน “ผงขี้เถ้า” มีสารซิลิก้า ซึ่งช่วยในการเจริญเติบโตของพืช ทำให้ให้ผนังเซลล์มีความแข็งแรง จึงช่วยสร้างภูมิต้านทานแมลง โรค ได้ดีขึ้น ป้องกันการเข้าทำลาย และกัดกินเซลล์พืชโดยตรง ช่วยให้ท่อน้ำเลี้ยงแข็งแรง มีการขยายตัวของท่อน้ำเลี้ยงเพิ่มขึ้น และขี้เถ้ายังมีแคลเซียมกับโพแทสเซียมเล็กน้อย ซึ่งช่วยให้ต้นไม้ออกดอกได้ดี จึงสามารถนำผงขี้เผามาโรยต้นพืช เพื่อให้พืชผักออกดอก ได้ผลผลิตเยอะ นอกจากการนำขี้เถ้ามาผสมน้ำใช้ไล่แมลงแล้ว ขี้เถ้าเปล่าๆ ยังสามารถนำไปโรยที่โคนต้นไม้หรือรองก้นหลุมช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืชได้ สำหรับดินที่มีปัญหาดินเปรี้ยวหรือดินกรดที่มีความเป็นกรดสูง แนะนำให้โรยขี้เถ้าลงไปรอบๆ โคนต้นไม้ ก็จะช่วยปรับสภาพดินให้มีความเป็นด่างเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ ในขี้เถ้ายังอุดมไปด้วยโพแทสเซียมและแคลเซียม ที่จะช่วยเร่งดอกไม้ให้บานสะพรั่ง เช่น ไลแลค (Lilac) กุหลาบ และไฮเดรนเยีย 

แจกสูตรน้ำขี้เถ้า ช่วยไล่แมลง สามารถทำตามกันได้ง่ายๆ 

วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1. ขี้เถ้าถ่าน 1 ถ้วย

2. น้ำสะอาด 3 ลิตร

3. กระป๋องสำหรับผสม

4. ตะแกรงสำหรับกรอง

5. ขวดพลาสติก

ขั้นตอนการทำน้ำหมักขี้เถ้าถ่าน

1. นำเถ้าใส่ลงในกระป๋องผสม จากนั้นเทน้ำสะอาดตามลงไป

2. คนส่วนผสมทั้งหมดให้ละลายเข้ากันดี

3. เมื่อคนไปได้สักพักจะสังเกตว่าเริ่มมีเศษเถ้าที่ไม่ละลายลอยขึ้นมาให้เราทำการช้อนออก

4. เสร็จแล้วให้ทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้ตกตะกอนเหลือเพียงน้ำใสๆ

5. เมื่อผ่านไป 1 คืน จะพบว่าน้ำมีความใสขึ้นเนื่องจากตกตะกอนหมดแล้ว เมื่อสัมผัสกับน้ำดูจะพบว่าน้ำมีความลื่นเนื่องจากอุดมไปด้วยสารซิลิกา

6. ค่อยๆ ตักน้ำขึ้นมา เพื่อไม่ให้ตะกอนที่นอนอยู่ขุ่นขึ้นมา แล้วทำการกรองน้ำอีกรอบโดยการใช้ตาข่ายในการกรอง

7. เมื่อกรองน้ำใสดีแล้วให้นำน้ำที่ผ่านการกรองแล้วใส่ลงในขวดพลาสติก แล้วนำไปใช้ได้เลย

อัตราส่วนและวิธีการใช้

ก่อนใช้ให้ผสม น้ำเถ้าถ่าน 250 ซีซีต่อน้ำ 10 ลิตร นำไปใช้ฉีดพ่นได้ทุกส่วนของพืช และใช้ได้กับพืชทุกชนิด ทั้งไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ และพืชผักสวนครัว โดยระยะเวลาการฉีด 5-7 วันต่อครั้ง

ข้อควรระวัง : ในการใช้ขี้เถ้า หรือน้ำขี้เถ้า คือไม่ควรใช้กับดินที่มีความเป็นด่างสูงเนื่องจากขี้เถ้ามีฤทธิ์เป็นด่างอยู่แล้ว และไม่ควรผสมในอัตราส่วนที่เข้มข้นเกินไปเพราะจะทำให้พืชเกิดใบไหม้ได้

ขอบคุณอ้างอิง : surinseed

เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2567