ชาวสวนบ้านแพ้ว ปลูกมะเขือยาวแซมฝรั่ง ฟันรายได้หลักหมื่น ทุก 3 วัน
23 พ.ค. 2567
156
0
ชาวสวนบ้านแพ้วปลูกมะเขือยาวแซมฝรั่ง
ชาวสวนบ้านแพ้ว ปลูกมะเขือยาวแซมฝรั่ง ฟันรายได้หลักหมื่น ทุก 3 วัน

“มะเขือยาว” ถือเป็นพืชผักทำเงินอีกหนึ่งชนิดที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยมีวิธีการปลูกและการจัดการดูแลไม่ยุ่งยาก สามารถเจริญเติบโตในดินทุกสภาพ ปลูกได้ตลอดทั้งปี และปลูกได้ทั่วทุกภาค ให้ผลผลิตเร็ว ใช้ระยะเวลาในการปลูกสั้นประมาณ 2-2 เดือนครึ่ง เก็บผลผลิตขายได้ หลังจากนั้นสามารถเก็บผลผลิตขายได้ทุก 3-5 วัน และหากมีการดูแลบำรุงอย่างถูกหลักสามารถเก็บผลผลิตได้นานถึง 1 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งพืชทางเลือกสำหรับชาวสวนที่กำลังมองหาพืชแซมในสวนไม้ผล เพื่อสร้างรายได้ประจำวันมาใช้จ่ายในครอบครัวระหว่างที่รอพืชหลักผลิดอกออกผล

คุณวรัชญา ทองดอนใหม่ หรือ คุณแหม่ม เกษตรกรเจ้าของสวนชัย กระโจมทอง ตั้งอยู่ที่ 69/4 หมู่ที่ 5 ตำบลหลักสอง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เกษตรกรรุ่นใหม่ทำสวนผสมสร้างรายได้ 2 ต่อ ด้วยการปลูกมะเขือยาวแซมในสวนฝรั่งกิมจูที่เป็นพืชสร้างรายได้หลัก ช่วยประหยัดต้นทุนในการดูแล ทั้งต้นทุนน้ำและปุ๋ย สามารถเอื้อประโยชน์ต่อกันได้ดี

คุณแหม่ม เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่จะมาทำสวน ตนเองทำงานเป็นพนักงานราชการปศุสัตว์จังหวัดมาก่อน พอหลังจากได้แต่งงานมีครอบครัวจึงได้ลาออกจากงานประจำมาทำสวน เพราะด้วยพื้นฐานที่บ้านของสามีประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรทำสวน แต่จะเน้นเป็นไปทางการปลูกพืชตามกระแส ถ้าหากย้อนไปช่วงสัก 10 กว่าปีที่แล้ว ที่บ้านของสามีจะปลูกองุ่นป๊อกดำซึ่งเป็นพืชกระแสมาแรงมากในขณะนั้น แต่พอหลังจากที่ตนเองลาออกจากงานประจำก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนและจุดเริ่มต้นจากการปลูกพืชตามกระแส แล้วหันมาเลือกปลูกพืชเศรษฐกิจทำเงินอย่างจริงจังมากขึ้น

โดยมะเขือยาวถือเป็นพืชเศรษฐกิจในช่วงนั้น ตนเองและสามีจึงได้ทดลองหาต้นพันธุ์มะเขือยาวมาปลูกแซมในสวนฝรั่งกิมจูที่เป็นพืชสร้างรายได้หลัก และเมื่อปลูกไปได้สักระยะเริ่มติดใจกับผลตอบแทนที่ได้จากมะเขือยาว เพราะเป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนได้ทุกๆ 3-5 วัน สามารถเอาเงินตรงนี้มาใช้จ่ายหมุนเวียนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี และยังเอื้อประโยชน์ให้กับพืชหลักในตอนที่ใส่ปุ๋ยให้กับพืชผัก พืชหลักก็จะได้รับธาตุอาหารจากตรงนี้ไปด้วย จึงไม่ลังเลที่จะเลือกปลูกมะเขือยาวเป็นพืชแซมสร้างรายได้เสริมในสวนฝรั่งตั้งแต่นั้นมา

“ย้อนไปเมื่อ 14 ปีที่แล้ว มะเขือยาวสายพันธุ์แรกที่พี่เริ่มปลูกคือ สายพันธุ์โทมาฮอค เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากในขณะนั้น ด้วยจุดเด่นของสายพันธุ์ที่ให้ผลยาวสวย ลูกดก จนในเวลาต่อมาก็ได้มีการปรับปรุงสายพันธุ์มาเรื่อยๆ ที่สวนก็เปลี่ยนสายพันธุ์ไปตามคำแนะนำจากแหล่งที่ซื้อต้นพันธุ์เสียบยอดมาปลูก จากเริ่มแรกปลูกโทมาฮอค เปลี่ยนมาเป็นท็อปกัน มาเขียวมรกต จนมาถึงปัจจุบันที่สวนปลูกเป็นมะเขือยาวลูกผสม ปรายแสง มีจุดเด่นที่ติดผลดก ผิวมันวาว อัตราการงอกสูง”

ปลูกมะเขือยาวแซมสวนฝรั่ง ให้ผลผลิตเร็ว 2 เดือน เก็บขาย

เจ้าของบอกว่า มะเขือยาวเป็นพืชที่ชอบดินใหม่ หมายความว่าเป็นดินที่มีการปรับร่องสวนใหม่ หรือเป็นดินที่ไม่เคยปลูกมะเขือยาวมาก่อน เขาจะชอบมาก ปลูกแล้วจะงาม ได้ผลผลิตดี แต่ก็ใช่ว่าจะต้องเป็นดินใหม่เท่านั้นถึงจะสามารถปลูกมะเขือยาวได้ เพราะอย่างที่ทราบกันว่ามะเขือยาวสามารถปลูกได้ในทุกสภาพดินและปลูกได้ทุกฤดู ซึ่งปัจจัยที่สำคัญจะอยู่ที่การบำรุงดูแลและปัจจัยทางสภาพอากาศมากกว่าที่ส่งผลดีหรือไม่ดีกับผลผลิต อย่างเช่น หากช่วงไหนที่สภาพอากาศเป็นใจผลผลิตก็ออกมาให้เก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ แต่ถ้าหากช่วงไหนสภาพอากาศแปรปรวนมากๆ จากที่เคยเก็บผลผลิตได้ตลอด ก็อาจจะกลายเป็นออกมาให้เก็บเป็นรุ่นๆ หรือให้เข้าใจง่ายๆ คือ ผลผลิตออกได้น้อยกว่าเดิมนั่นเอง

วิธีการปลูก

เริ่มตั้งแต่การเตรียมดิน ที่สวนของเราจะมีเครื่องตีดินอยู่แล้ว ก็จะใช้วิธีการโรยมูลสัตว์ไปก่อน มูลสัตว์ที่ใช้ก็คือขี้วัว จากนั้นเมื่อโรยขี้วัวเสร็จให้ทำการตีดินให้ร่วน แล้วปักไม้ไผ่ไว้สำหรับมัดเชือกให้ลำต้นยึดกับไม้ คือจะปลูกในระยะห่างระหว่างต้นเท่าไหร่ก็ให้ปักไม้ไผ่ไปตามระยะที่จะปลูก โดยที่สวนจะปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 3 ศอก พื้นที่ 7 ไร่ ปลูกแซมในสวนฝรั่งได้ทั้งหมด 1,000 ต้น

“ที่สวนจะเรียกว่าเป็นการปลูกแซมในสวนฝรั่ง คือจะปลูกฝรั่งไว้ด้านข้าง ซ้าย-ขวา หรือตามความเหมาะสมในแต่ละครั้ง ในบางทีจะปลูกฝรั่งไว้ตรงกลาง แล้วปลูกมะเขือยาวไว้ด้านข้างติดกับร่องน้ำ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการดูแล และขั้นตอนการเก็บเกี่ยวผลผลิต ทั้งกับคนที่อยู่บนบก และอยู่ในร่องสวน”

การปลูก ขุดหลุมไม่ต้องลึกแค่ให้พอวางต้นกล้าลงปลูกได้ เนื่องจากที่สวนจะใช้ต้นกล้าเสียบยอดในการปลูก ที่ซื้อมาในราคาต้นละ 6-7 บาท หากขุดหลุมลึกเกินไปดินจะมากลบรอยแผลที่เสียบยอดจะทำให้ต้นมะเขือยาวตายได้

ก่อนปลูกรดน้ำให้ดินนุ่มก่อน แล้วนำต้นกล้าลงหลุมปลูกในช่วงที่อากาศดีๆ โดยไม่ต้องมีการใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมก่อนปลูก เพราะว่าได้ใช้มูลสัตว์ตีผสมลงไปตั้งแต่ในขั้นตอนการเตรียมดินแล้ว แต่ถ้าเป็นสวนอื่นที่เคยเห็นมาจะใช้มูลค้างคาวรองก้นหลุมก่อนปลูกในกรณีที่ไม่ได้ใช้ขี้วัวตีผสมกับดิน

การบำรุงรดน้ำ-ใส่ปุ๋ย ให้ช่วงต้นยังเล็กควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ เช้า-เย็น อย่าให้ดินแห้ง หลังจากนั้นเมื่อต้นเริ่มแข็งแรง เริ่มตั้งตัวได้แล้วประมาณเดือนครึ่ง ถึง 1 เดือน จะปรับปริมาณการให้น้ำเหลือเป็นรดน้ำทุกวัน วันละครั้ง โดยที่สวนจะใช้เรือในการรดน้ำ

การใส่ปุ๋ย เมื่ออายุต้นได้ 10 วัน เริ่มใส่ปุ๋ยครั้งแรก สูตร 25-7-7 เป็นปุ๋ยสูตรเร่งต้น หรือบางสวนจะใช้สูตร 46-0-0 ผสมกับสูตรเสมอ 16-16-16 ก็ได้ แล้วแต่เคล็ดลับของแต่ละสวน ใส่ในปริมาณ 1 ช้อนชา แล้วหลังจากนั้นบำรุงใส่ปุ๋ยไปเรื่อยๆ ทุกๆ 5-7 วัน และนอกจากการใส่ปุ๋ยทางดินแล้วทางสวนจะมีการฉีดป้องกันหนอนและเพลี้ยไฟ ซึ่งถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของมะเขือยาว พร้อมกับการฉีดพ่นบำรุงใบในทุก 5-7 วัน

“โรคแมลงที่น่าเป็นห่วงคือ หนอนและเพลี้ยไฟ ที่สวนจะเน้นป้องกันมากกว่าทำลาย โดยการระบาดของหนอนและเพลี้ยจะมาเป็นช่วงๆ และมักจะเกิดในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู เช่น ช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือในช่วงที่อากาศร้อนชื้น ก็จะฉีดป้องกันไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”

ส่วนวิธีการบำรุงหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตก็ไม่มีอะไรมาก ดูแลเป็นปกติทั่วไป คือใส่ปุ๋ย-รดน้ำ อาจจะมีการเพิ่มสูตรปุ๋ยมาใช้สลับกันบ้าง ระหว่างสูตร 25-7-7 กับสูตรเสมอ 16-16-16 แต่ระยะในการใส่ปุ๋ยก็ยังคงเหมือนเดิม คือใส่ปุ๋ยทุกๆ 5-7 วัน

ปริมาณผลผลิต มะเขือยาวเป็นพืชที่ปลูกแล้วให้ผลผลิตไว สามารถเก็บผลผลิตขายได้ตั้งแต่ 2 เดือนแรก โดยให้ดูที่ความสมบูรณ์ของต้นประกอบ หากต้นมีความสมบูรณ์สามารถเก็บลูกแรกขายได้เลย ไม่ต้องตัดดอกทิ้ง แล้วหลังจากนั้นจะให้ผลผลิตเก็บได้เรื่อยๆ หากที่สวนไหนมีการดูแลบำรุงที่ดี ปลูกครั้งหนึ่งสามารถเก็บผลผลิตได้นานเป็นปี มีผลผลิตออกมาเก็บได้ทุก 3 วัน ในกรณีที่เจ้าของสวนหรือคนที่ชำนาญเก็บ แต่ถ้าจ้างแรงงานมือใหม่เก็บในบางครั้งอาจประสบปัญหาคนงานเก็บผลอ่อนเกินไป เจ้าของสวนก็อาจจะต้องเลื่อนเวลาการเก็บเป็น 5 วัน พื้นที่ 7 ไร่ เก็บผลผลิตได้ประมาณ 700-1,000 กิโลกรัมต่อครั้ง คุณภาพของผลผลิตมีทั้งเบอร์สวย เบอร์รอง ทางสวนจะต้องมาทำการคัดไซซ์ก่อนส่งแม่ค้าอีกครั้ง

“โดยผลผลิตส่วนใหญ่ของที่สวนจะได้เป็นเบอร์สวย มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ คือทรงสวย หัวท้ายเท่ากัน น้ำหนักของผลอยู่ที่ประมาณ 4 ลูกต่อ 1 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางสภาพอากาศและเคล็ดลับการบำรุงรดน้ำใส่ปุ๋ยให้เหมาะสมกับที่พืชต้องการ เนื่องจากมะเขือยาวเป็นพืชที่ให้การตอบสนองต่อการบำรุงเร็วมาก นอกจากการบำรุงด้วยปุ๋ยเคมีแล้ว ในทุกๆ 2 เดือนที่สวนจะมีการใส่ปุ๋ยขี้นกกระทาสลับกับปุ๋ยขี้ไก่ลงไปด้วย เพื่อบำรุงใบให้เขียว บำรุงต้นให้งาม ก็จะส่งผลไปถึงผลผลิตที่ออกมาได้คุณภาพ ขายได้ราคา คุ้มค่ากับการลงทุน และยิ่งมาประกอบกับที่ในช่วงนี้ราคาของมะเขือยาวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี กิโลกรัมละ 20 กว่าบาท ชาวสวนอยู่ได้สบาย หรือถ้าหากอยู่ในช่วงที่ราคาตกต่ำ ก็ขออย่าให้ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 15 บาท เจ้าของสวนก็ถือว่ายังมีกำไร แต่ถ้าหากต่ำกว่ากิโลกรัมละ 15 บาท ถือว่าอยู่ยาก เนื่องด้วยปัจจัยค่าปุ๋ย ค่าอุปกรณ์การเกษตร และค่าแรง มีต้นทุนที่สูงขึ้นหมดทุกอย่างเลย” คุณวรัชญา กล่าวทิ้งท้าย

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 061-623-5361 หรือติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : สวนชัย กระโจมทอง

ตกลง