ปลัดเกษตรฯ ร่วมงานและกล่าวปาถกฐาพิเศษ หัวข้อ “เกษตรผสานธุรกิจ: ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต” ภายในงาน “New Engine for New S-curve พลิกโฉมเกษตรไทย สู่เครื่องยนต์เศรษฐกิจ”
17 มี.ค. 2568
125
0
ปลัดเกษตรฯร่วมงานและกล่าวปาถกฐาพิเศษ
ปลัดเกษตรฯ ร่วมงานและกล่าวปาถกฐาพิเศษ หัวข้อ “เกษตรผสานธุรกิจ: ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต” ภายในงาน “New Engine for New S-curve พลิกโฉมเกษตรไทย สู่เครื่องยนต์เศรษฐกิจ”

ปลัดเกษตรฯ ร่วมงาน “New Engine for New S-curve พลิกโฉมเกษตรไทย สู่เครื่องยนต์เศรษฐกิจ”

 

 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดและกล่าวปาถกฐาพิเศษ หัวข้อ “เกษตรผสานธุรกิจ: ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต” ภายในงาน “New Engine for New S-curve พลิกโฉมเกษตรไทย สู่เครื่องยนต์เศรษฐกิจ” โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท 

 โดย ศ.ดร.นฤมล เปิดเผยว่า การจัดงาน “New Engine for New S-curve พลิกโฉมเกษตรไทย สู่เครื่องยนต์เศรษฐกิจ” มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านการบริหารจัดการองค์กร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด การบริหารจัดการทางการเงิน การทำธุรกิจสมัยใหม่ ตลอดจนการสร้าง Growth Mindset ด้านธุรกิจเกษตร เพื่อยกระดับเกษตรกรรุ่นใหม่และวิสาหกิจชุมชนให้เป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเกษตร 

 “ภาคเกษตรถือเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรหลายล้านคน แต่ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่ม กระทรวงเกษตรฯ จึงมุ่งพัฒนาเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรรุ่นใหม่สู่ผู้ประกอบการเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้น โดยบูรณาการการเกษตรเข้ากับแนวคิดธุรกิจสมัยใหม่อย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถสร้าง New S-curve ด้านเกษตรกรรม และแข่งขันได้ในระดับโลก โดยการสร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ เกษตรอุตสาหกรรมและธุรกิจเกษตร เพื่อให้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่ทำให้ประเทศไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ลดความเหลื่อมล้ำ”ศ.ดร.นฤมล กล่าว

 ด้าน นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ และวิสาหกิจชุมชนสู่ผู้ประกอบการเกษตร (Agriperneurs) ที่มีทักษะสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ Growth Mindset and Anti Fragile, Learning Skill, Financial Literacy, Digital Literacy และ ESG Literacy for Resilience เพื่อให้สามารถเรียนรู้ ประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาจากประสบการณ์จริง เพื่อปรับเพิ่มผลิตภาพการผลิต พร้อมกับการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร สู่การเป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูง เพื่อสร้าง New Agricultural S Curve เกิดเป็นรายได้ใหม่ที่นำไปสู่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตรที่เติบโตขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งโจทย์สำคัญของการขับเคลื่อน คือ เกษตรกรผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทานจะต้องมีความตระหนักถึงผลกระทบ ยอมรับการเปลี่ยนแปลง มีทัศนคติเชิงบวก และพัฒนาทักษะสมัยใหม่อยู่เสมอ เพื่อบรรเทาผลกระทบและสามารถปรับตัวจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ระบบเศรษฐกิจที่มีการเชื่อมต่อกันของผู้บริโภคและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม สร้างโอกาสให้ภาคการเกษตรของไทยในการเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานสินค้าที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ธุรกิจพลังงานชีวมวล ธุรกิจวัสดุชีวภาพ ธุรกิจเวชสำอาง ธุรกิจเภสัชภัณฑ์ ฯลฯ

 สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงการศึกษาแนวทางการส่งเสริมและยกระดับเกษตรกรรุ่นใหม่และวิสาหกิจชุมชนสู่ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร เช่น เจลโปรตีนผำ ใช้นวัตกรรมเพื่อนำไปสู่การเป็นอาหารแห่งอนาคต โดยการใช้คุณสมบัติของผำ พืชที่อุดมด้วยโปรตีน และคุณค่าทางโภชนาการสูง ถูกยกให้เป็นซูเปอร์ฟู้ด ที่มีกรดอะมิโนจำเป็น เช่น ไลซีน ที่มีส่วนช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกาย และระบบประสาท มาสกัดเป็นเจลโปรตีน ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคสายรักสุขภาพในปัจจุบันและอนาคต นี่จึงเป็นอีกก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทยในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และตอบโจทย์เทรนด์อาหารแห่งอนาคตได้อย่างแท้จริง รวมถึง Fine Robusta กาแฟสำเร็จรูป พัฒนาในรูปแบบของ Biodegradable Capsule ใช้พลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และ Immersion Bag สร้างโอกาสทางการตลาด ตอบโจทย์ทางเลือกที่สะดวก รวดเร็ว เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นก้าวสำคัญในการทำให้กาแฟไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก ด้วยความยั่งยืนและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ยุคสมัย

 โดยภายในงานมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรรุ่นใหม่และวิสาหกิจชุมชน รวม 15 ธุรกิจ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้โครงการศึกษาแนวทางการส่งเสริมและยกระดับเกษตรกรรุ่นใหม่และวิสาหกิจชุมชนสู่ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร เช่น โมเดลธุรกิจน้ำกระชายกระป๋องอัดก๊าซ จากวิสาหกิจชุมชนภูริธาราพรรณ จังหวัดสระบุรี, โมเดลธุรกิจสแน็คบาร์กล้วย วิสาหกิจชุมชนบ้านกุ่มพัฒนา จังหวัดราชบุรี, โมเดลธุรกิจกาแฟแคปซูล จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปกาแฟสดสตรีคลองท่อมเหนือ จังหวัดกระบี่, โมเดลธุรกิจเจลลี่ผำ จาก Young Smart Farmer นายณัฐวุฒิ จันทร์เรือง จังหวัดจันทบุรี, โมเดลธุรกิจ ไซรัปวนิลา จาก Young Smart Farmer นางสาวพาพร โตอินทร์ จังหวัดนครราชสีมา และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากเกษตรกรรุ่นใหม่และวิสาหกิจชุมชนที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ จำนวน 10 ธุรกิจ เช่น ลำไยฟรีซดรายสอดไส้สตรอเบอรี่ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อบกรอบ กระเจี๊ยบกรอบ น้ำมะนาวพร้อมดื่ม เลม่อนมีฟาร์ม ข้าวเกรียบปูนา เครื่องดื่มกล้วยผงสำเร็จรูป ผงโรยข้าวสูตรผักเคลผสมปลา และน้ำผักโขมผสมฟักทอง เป็นต้น

 

 

x
  • รวมเว็บไซต์ทั้งหมด
  • ภาคเหนือ
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ภาคกลาง
  • ภาคตะวันออก
  • ภาคใต้
สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง