นายกฤษ อุตตมะเวทิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมการตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้ตรวจกระทรวงประจำปี 2568 รอบที่ 3

วันพุธที่ 6 สิงหาคม 2568 เวลา 9.30 น. นายกฤษ อุตตมะเวทิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับ (พลตำรวจเอก ประทีป เจริญกัลป์) ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขตตรวจราชการที่ 9 เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี (นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์) เพื่อหารือข้อราชการที่สำคัญ

ต่อมาเข้าร่วมประชุมการตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้ตรวจกระทรวงประจำปี 2568 รอบที่ 3 โดยมีพลตำรวจเอก ประทีป เจริญกัลป์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขตตรวจราชการที่ 9 เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้ตรวจราชการกระทรวง ผู้ตรวจราชการกรมที่เกี่ยวข้อง และที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนของจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเกษตรและสหกรณ์จังหวัดจันทบุรี (นายยิ่งยศ พันธุ์เอี่ยม) หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมตากสิน ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี มีแผนงาน/โครงการที่ตรวจติดตามดังนี้
การตรวจติดตามนโยบายเร่งด่วนและนโยบายสำคัญของรัฐบาล ได้แก่
1. การตรวจติดตามนโยบายเร่งด่วน และนโยบายสำคัญของรัฐบาล
- การป้องกันและแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
- การขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power)
- การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และบุหรี่ไฟฟ้า
- การตรวจติดตามสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานของศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
2. การตรวจติดตามงานตามที่คณะรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
- การตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายพักชำระดอกเบี้ย 3 ปี

ทั้งนี้ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ลดการใช้ปุ๋ยเคมีและส่งเสริมให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการเกษตร และให้เสนอแนะเกี่ยวกับการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) โดยผลักดันการท่องเที่ยวศาสนาให้เป็น Soft Power ใช้ผ้าไหม ให้เกิดพลังดึงดูด เช่นการใช้ผ้าไหมห่มพระเจดีย์ และสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่สำคัญของประเทศ อาจรวมเข้าไปในแพคเกททัวร์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สนับสนุนผ้าไหมและสินค้าทางการเกษตรอื่นๆ และยังได้ของที่ระลึกกลับบ้านด้วย โดยได้กำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการตามโครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แบบมุ่งผลสัมฤทธิ์เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในทุกโครงการที่เกี่ยวข้อง