วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 09.30 น. ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายประภาส ภิญโญชีพ) ประชุมตรวจราชการแบบบูรณาการตามแผนการตรวจราชการของคณะผู้ตรวจราชการ เขตตรวจราชการที่ 3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รอบที่ 3 ณ ห้องประชุมแม่กลอง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดราชบุรี ร่วมกับ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี (นายพุทธพงษ์ สุริยะสิงค์ ) และผู้ตรวจราชการกระทรวงต่าง ๆ ได้แก่ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมด้วยที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดราชบุรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (นายพิฆเนศ ต๊ะปวง) เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีวาระที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ เรื่อง การขับเคลื่อนประเด็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล : การป้องกันและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการขับเคลื่อนตามแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่ : มีการดำเนินการ ดังนี้
1.ขับเคลื่อนตามแผนการลดก๊าซเรือนกระจกในระดับจังหวัด เช่น 1)การจัดฝึกอบรมสร้างการรับรู้ในการใช้เทคโนโลยีการผลิตข้าวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในหัวการบริหารจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งในแปลงนา 2)จัดทำแปลงสาธิตการใช้เทคโนโลยีการปลูกข้าว การเก็บตัวอย่างแก๊สเพื่อวิเคราะห์ปริมาณการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจก 3) จดบันทึกข้อมูลการเจริญเติบโตของข้าว
2. ป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่ : มีการดำเนินการ ภายหลังจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 มีนโยบายให้ลดการเผาในระดับจังหวัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดทำประกาศ เรื่อง มาตรการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝันละอองขนาดเล็กไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM 2.5) ภาคการเกษตร เพื่อเป็นมาตรการป้องกันให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม และสนับสนุนการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM2.5)มาตรการสำคัญตามประกาศจังหวัดราชบุรี เรื่อง ห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่จังหวัดราชบุรี ลงวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ไม่ให้มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน และมีคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้นำท้องที่ สอดส่อง ดูแลเอาใจใส่ประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด