คณะผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ร่วมกับนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด เร่งพัฒนาแหล่งน้ำ “ปตร.ลำน้ำยัง (กุดก่วง)” แก้ภัยแล้งซ้ำซาก เพิ่มพื้นที่รับประโยชน์กว่า 10,000 ไร่ พร้อมมอบปัจจัยการผลิตถึงมือเกษตรกร
วันที่ 1 สิงหาคม 2568 คณะผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วยหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว และ นายกฤษ อุตตมะเวทิน ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างประตูระบายน้ำลำน้ำยัง (กุดก่วง) พร้อมรับฟังปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ ณ วิทยาลัยการอาชีพโพนทอง ต.แวง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ว่า โครงการประตูระบายน้ำลำน้ำยัง (กุดก่วง) เป็นโครงการที่ช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ในพื้นที่ ต.วังสามัคคี อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด โดยเริ่มก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่บ้านกุดก่วง-วังยาว และระบบส่งน้ำที่มีความยาวกว่า 3,500 เมตร เพื่อสนับสนุนพื้นที่การเกษตรประมาณ 3,024 ไร่ แล้วเสร็จในปี 2554 อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูแล้งพบว่า ไม่มีน้ำต้นทุนเพียงพอที่จะสูบไปใช้ในพื้นที่เกษตรได้ กรมชลประทานจึงได้ก่อสร้างประตูระบายน้ำลำน้ำยัง (กุดก่วง) เพื่อทดน้ำและเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง มุ่งบรรเทาและแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำให้ประชาชนในพื้นที่ มีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (พ.ศ. 2568 - 2571)
ทั้งนี้ ได้มอบปัจจัยการผลิตด้านการเกษตรให้แก่ผู้แทนเกษตรกร เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูง อาทิ ข้าวสาร จำนวน 10 ตัน เมล็ดพันธุ์/ต้นกล้าพันธุ์ผัก ไข่ไก่ เมล็ดพันธุ์หญ้ารูซี่ ถุงยังชีพสัตว์ บริการทำหมันสุนัขและแมว มอบพันธุ์ปลากินพืช สารเร่งพด. และปุ๋ยหมัก จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
จากนั้น เดินทางลงพื้นที่ต่อไปยัง โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย ต.รอบเมือง อ.หนองพอก และหอประชุมที่ว่าการอำเภอโพธิ์ชัย ต.ขามเบี้ย อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด เพื่อพบปะเกษตรกรและรับฟังปัญหาในพื้นที่ พร้อมมอบโฉนดเพื่อการเกษตร และปัจจัยการผลิตด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกร
กว่า 2,000 ราย เนื้อที่รวมประมาณ 20,127 ไร่ และมอบโฉนดต้นยาง จำนวน 100 ฉบับ โฉนดเพื่อการเกษตร เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งเน้นให้เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ เพื่อสร้างโอกาสในการมีอาชีพ มีรายได้ และมีความมั่นคงในชีวิต เป็นการพัฒนาสิทธิและเพิ่มมูลค่าในที่ดินรัฐให้แก่เกษตรกร ให้สามารถนำไปต่อยอดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้เพิ่มมากขึ้น มีทางเลือกในการพัฒนาที่ดินและพัฒนาอาชีพของตนเอง ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรฯ ได้เดินหน้าผลักดันโครงการโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยาง ควบคู่ไปกับที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อพัฒนาศักยภาพให้เป็นสินทรัพย์ ใช้เป็นหลักประกันในระบบสินเชื่อ เชื่อมโยงกับสถาบันการเงิน เพื่อเป็นการสร้างคุณค่าให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
“นอกจากนโยบายเร่งรัดการจัดที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรที่ได้สานต่อจากนโยบายเดิมแล้วนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้ให้ความสำคัญกับมาตรการเพื่อลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร โดยในวันนี้ได้นำปัจจัยการผลิตด้านการเกษตรหลากหลายมามอบให้กับเกษตรกร เช่น พืชพันธุ์ดี พันธุ์สัตว์น้ำ ถุงยังชีพสัตว์ น้ำหมักชีวภาพ หม่อนชำถุง สมุดบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ เป็นต้น ตลอดจนบริการทำหมันสุนัขและแมวเคลื่อนที่ ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย เป้าหมายเพื่อลดต้นทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยตั้งเป้าทำหมันสุนัขและแมวไม่ต่ำกว่า 130,000 ตัว ในปีงบประมาณ 2569 อีกด้วย“