ปลูกผลไม้ 8 ชนิด มีผลผลิตเก็บได้ทั้งปี

คนที่ชอบกินผลไม้ หรือใครมีที่ข้างบ้าน ข้างสวน อยากแนะนำปลูกผลไม้ 5 ชนิดนี้มีติดบ้านไม่อดตาย มีกินทั้งปี แถมยังขายเสริมรายได้ได้อีกด้วย หรือตอนนี้บ้านไหน มีผลไม้เหล่านี้อยู่บ้าง มาเล่าสู่กันฟังหน่อยว่าปลูกแล้วเป็นยังไงกันบ้าง อีกอย่างไม้ผลบางชนิดอายุยืนมากๆ เหมาะกับสภาพอากาศแบบบ้านเรา และบางชนิดแตกหน่อออกผลผลิตได้เรื่อยๆ โดยไม่สนใจฤดูกาลให้ผลผลิตทั้งปี

1 ส้มโอ

ส้มโอจะเริ่มให้ผลผลิตครั้งแรกเมื่ออายุ 3-4 ปีขึ้นไป จากนั้นจะให้ผลผลิตเต็มที่เมื่ออายุประมาณ 9-10 ปี และจะให้ผลผลิตดีคงที่ตราบเท่าที่ต้นยังสมบูรณ์ อยู่จนอายุประมาณ 20-30 ปี 

นิสัยส้มโอทุกสายพันธุ์จะออกดอกติดผลปีละ 2 รุ่น โดยรุ่นแรกออกดอกเดือนธันวาคมถึงมกราคม ผลแก่เก็บเกี่ยวเดือนสิงหาคม-กันยายน (ดกมาก) รุ่นสองออกดอกเดือนสิงหาคม-กันยายน ผลแก่เก็บเกี่ยวเดือนมีนาคมถึงเมษายน (ดกน้อยกว่ารุ่นแรก) แต่ผลรุ่นสองมีคุณภาพดีกว่ารุ่นแรกเพราะผลแก่ตรงกับช่วงแล้ง ถ้าต้องการทำให้ผลรุ่นแรกดีเหมือนรุ่นสองจะต้องควบคุมปริมาณน้ำ โดยเฉพาะน้ำใต้ดินโคนต้นให้ได้เท่านั้น  

เคล็ดลับ : การใส่ปุ๋ย ในช่วงแรกปลูกไป 1 เดือน จะใส่ปุ๋ยคอก ขี้หมู ขี้วัว หรือขี้ไก่ก็ได้ ใส่เดือนละครั้ง ครั้งละประมาณ 1 กำมือ และใส่ปุ๋ยเคมี สูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 ก็ได้ ใส่พอประมาณ เดือนละครั้ง ต้นละ 1 ช้อนโต๊ะ ทุกวัน

2 มะพร้าว

มะพร้าวน้ำหอมปลูกได้ทั้งในที่ลุ่มและที่ดอน ในที่ลุ่มภาคกลางมักจะนิยมปลูกในระบบสวนด้วยการยกร่องแปลงปลูกให้สูง ระหว่างแปลงปลูก จัดให้มีร่องน้ำ เมื่อต้นมะพร้าวน้ำหอมอายุ 2 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่ออกช่อดอกหรือจั่นได้ 190-200 วัน ก็จะพัฒนาเป็นผลอ่อน มีน้ำหวานหอม เนื้ออ่อนนุ่ม และมีกะลาที่แข็งทนทานต่อการขนส่ง ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยว ในรอบ 1 ปีจะตัดเก็บมะพร้าว 12-15 ครั้ง ในทุก 20 วัน จะตัดเก็บมะพร้าว 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ทะลาย ทะลายละ 10-30 ผล

เคล็ดลับ : ระยะปลูกที่เหมาะสมในการปลูกคือระยะระหว่างต้นxระยะระหว่างแถว 6×6 เมตร ในช่วง 1-2 ปีแรก การให้น้ำเป็นสิ่งจำเป็นในฤดูแล้ง ควรรดน้ำอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง และใช้เศษหญ้าคลุมโคนเพื่อรักษาความชื้น

3 กล้วย

กล้วยจะเป็นพืชที่ทนทาน แต่การปลูกกล้วยให้ได้ผลผลิตที่ดี ดินที่ปลูกควรมีอินทรียวัตถุและความชุ่มชื้นเพียงพอ กล้วยชอบแสงแดดจัด “แสงแดด” เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง สำหรับปุ๋ยให้ใส่ทั้งปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักและปุ๋ยเคมี โดยช่วงแรกควรให้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนเยอะ ส่วนปุ๋ยยูเรียให้เดือนละครั้ง

ในช่วงก่อนกล้วยใกล้ออกปลี 2-3 เดือน การให้ปุ๋ยเคมีทางรากควรใช้สูตร 25-7-7 จะช่วยให้ได้ใบขนาดใหญ่หนาเขียวเข้ม เป็นใบที่มีคุณภาพดีกว่าใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ และในช่วง 6 เดือนหลังที่ปลูกให้ปาดหน่อที่โผล่ออกมาทิ้งไป

เคล็ดลับ : หมั่นตัดหน่อที่แตกออกมาให้เหลือแค่ 1-2 หน่อ พร้อมทั้งตัดใบที่แห้งออก เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและไม่ให้แย่งอาหารจากต้นแม่ด้วย

4 มะละกอ

มะละกอ ชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี ไม่ชอบน้ำขัง ให้เว้นระยะห่างระหว่างหลุมปลูกอย่างน้อย 2.5×3 เมตร เพราะรากลึกและกว้าง ควรมีแนวไม้กันลม ปลูกให้อยู่ใกล้ทางขนส่งหรือเก็บเกี่ยวง่าย เพราะผิวของมะละกอบางมาก อาจจะเกิดการช้ำระหว่างการเก็บเกี่ยว

ต้นมะละกอที่ปลูกไปประมาณ 5-6 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลดิบได้ หากต้องการเก็บผลสุก ให้รอประมาณ 8-10 เดือน จึงจะเก็บเกี่ยวได้ โดยเลือกผลที่กำลังเริ่มสุก ผิวเริ่มมีแต้มสีส้มปนเขียว และผลยังไม่นิ่มมาก

เคล็ดลับ : จะให้ปุ๋ยต้นมะละกอเมื่อติดดอกออกผลแล้ว โดยให้ปุ๋ยสูตร 14-14-21 ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อต้น หรือจะให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอย่างสม่ำเสมอก็ได้

5 ฝรั่ง

ฝรั่งเป็นต้นไม้ผลที่มีความทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี ฝรั่งจะเจริญเติบโตและให้ผลเต็มที่ในที่ๆ มีฝนตกมากไป จนถึงในที่แห้งแล้ง ฝรั่งเป็นต้นไม้ผลที่เกิดขึ้นและให้ผลดีในดินเกือบทุกชนิด แต่ถ้าจะปลูกให้ได้ผลดีจริงๆ แล้ว ดินที่ปลูกนั้นจะต้องเป็นดินร่วนซุย และมีอินทรียวัตถุมาก ฝรั่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก แต่น้ำต้องไม่ขังจนแฉะ

ฤดูที่เหมาะแก่การตอนกิ่งฝรั่งนั้นคือฤดูฝน เพราะฤดูฝนที่เป็นฤดูต้นไม้กำลังเจริญเติบโต และขยายตัวเปลือกลอกง่ายเมื่อตอนแล้วออกรากง่ายกว่าฤดูอื่น เดือนที่เหมาะแก่การตอนนั้นก็คือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม

เคล็ดลับ : ฝรั่งเป็นผลไม้ที่เจริญเติบโตเร็ว เพราะฉะนั้นเมื่อเริ่มปลูกควรใส่ปุ๋ยและรดน้ำให้ต้นฝรั่งชุ่มชื้นอยู่เสมอ อย่างน้อย 3-4 วันต่อครั้ง และกำจัดโรคแมลงทุกๆ 10 วัน จะช่วยป้องกันโรคและแมลงได้

6 มะม่วงหาวมะนาวโห่

มะม่วงหาวมะนาวโห่ มักนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากมีดอกและผลที่สวยงาม และออกดอกตลอดปี ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดดจัด ฉะนั้นปลูกให้โดนแดดเต็มวันได้ และต้องมีการระบายน้ำที่ดีด้วย เพราะเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อยมาก แต่ถ้าในช่วงฤดูกาลที่ออกผลต้องให้น้ำ ไม่งั้นลูกจะเล็ก ลูกจะไม่สวย ส่วนปุ๋ยที่ใช้เป็นปุ๋ยมูลสัตว์ทั้งหมด

สายพันธุ์ของมะม่วงหาวมะนาวโห่ มีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ หนามแดง จะมีลักษณะเป็นลูกสีแดง และอีกสายพันธุ์ หนามพรม จะมีลักษณะเป็นลูกสีเขียว แต่เมื่อสุกผลของทั้งสองสายพันธุ์จะมีลักษณะเป็นสีม่วงเข้มถึงดำ เป็นผลไม้ที่เรียกได้ว่าเป็นเบอร์รี่ดีๆ ของไทยที่มีสารต้านมะเร็งอีกด้วย

เคล็ดลับ : ระยะเวลาในการปลูก ถ้าเป็นต้นเล็กใช้ระยะเวลา 3 ปี ถึงจะโตมีลูก แต่ถ้าในกรณีที่ใส่ไบโอชาร์เข้าไปผลผลิตจะออกเร็ว 2 ปีกว่าก็ให้ลูกแล้ว

7 องุ่น

องุ่น เป็นพืชที่เจริญเติบโตและมีการแตกกิ่งก้านสาขาเร็ว จึงจำเป็นต้องมีการตัดแต่งกิ่งเพื่อให้ต้นองุ่นเจริญเติบโตไปในทิศทางที่ถูกต้อง ต้นองุ่นที่ปลูกเสร็จแล้วให้หาไม้รวกปักขนาบลำต้น แล้วจึงผูกต้นชิดกับเสาเพื่อบังคับให้ต้นตั้งตรง ในระหว่างนี้ตาข้างจะเจริญพร้อมกับตายอด ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้การเจริญส่วนยอดลดลง

วิธีเพื่อให้มีผลผลิตภายในเวลา 8-12 เดือน ซึ่งองุ่นพันธุ์นี้สามารถบังคับให้ออกผลได้ 2 ปี 5 ครั้ง ผู้ปลูกองุ่นสามารถคืนทุนได้ภายใน 1-2 ปี โดยตัดแต่งกิ่งให้มีผลผลิตออกได้ทุกเดือน แต่ที่นิยมมากคือ การตัดแต่งกิ่งให้มีผลผลิตแก่เก็บเกี่ยวตรงกับช่วงเทศกาล เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน เป็นต้น

เคล็ดลับ : ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ระยะติดผล และผลกำลังพัฒนาไม่ควรขาดน้ำ ระยะก่อนเก็บผลผลิต 1-2 สัปดาห์ ควรงดการให้น้ำหรือรดน้ำให้น้อยที่สุด เพื่อทำให้ผลมีคุณภาพดี น้ำตาลในผลสูง ผลไม่นิ่ม มีผิวสวย รสชาติหวาน กรอบ อร่อย

8 ส้มเขียวหวาน

การปลูกส้มไม่ใช่เรื่องยาก เพราะส้มเป็นพืชตระกูลเดียวกับมะนาว มีปัญหาเรื่องโรคแมลง เช่น เพลี้ยไฟ หนอนชอนใบ โรคแคงเกอร์ โรครากเน่าและโคนเน่า โรคผลร่วง หากต้องการประสบความสำเร็จในการทำสวนส้มเชิงการค้า เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่การดูแลระบบรากต้นส้มให้มากกว่าต้นมะนาวสักหน่อย เพราะรากต้นส้มอ่อนแอกว่าต้นมะนาว

ส้มเป็นผลไม้ที่มีโอกาสทางการตลาดตลอดทั้งปี ตลาดส้มไม่มีวันตัน เกษตรกรมีโอกาสขายส้มในช่วงเทศกาลวันพระทุกๆ 15 วัน ไม่รวมกับเทศกาลไหว้เจ้าของคนจีนที่มีตลอดปี เป็นไม้ผลที่ให้ผลผลิตทุกๆ 4 เดือน ประมาณปีละ 2-3 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่ไม่มีฤดูกาลตายตัว เพราะมีผลผลิตเข้าสู่ตลาดได้เกือบทั้งปี

เคล็ดลับ : ตั้งแต่ต้นส้มออกดอก จนพัฒนาเป็นผลส้ม จะใช้เวลาปลูกดูแลประมาณ 7 เดือน ส้มอายุ 7 เดือน จะมีรสเปรี้ยวนำ มีรสหวานปนบ้างนิดหน่อย ส้มอายุ 8 เดือน จะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ส้มอายุ 9 เดือน จะมีรสหวานอมเปรี้ยว ส้มอายุ 10 เดือน จะมีรสชาติหวานฉ่ำ

แค่นี้ก็มีผลไม้กินทั้งฤดูกาลตลอดปีกันแล้ว ถ้าผลผลิตเยอะก็ยังสามารถนำไปจำหน่ายสร้างรายได้เพิ่ม อาจจะเหนื่อยในช่วงแรก แต่ท้ายที่สุดผลรับก็จะออกมาดี เอาใจช่วยทุกๆ คน แรกๆ อาจจะยังไม่มีประสบการณ์ เกี่ยวกับการปลูกผลไม้แต่ละชนิด ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่าแต่ละพื้นที่ ดินก็มีลักษณะที่ต่างกัน เหมือนได้เรียนรู้ ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นไม้ต้นนี้ที่กำลังจะปลูก ถ้าผลผลิตออกมา เพียงเท่านี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการปลูก แต่ก็ต้องหมั่นคอยสังเกตโรคต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย