สายเข้าครัวทำอาหารต้องรู้ กะทิเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารทั้งคาวและหวาน ทำได้หลากหลายเมนู ตั้งแต่แกงกะทิ ต้มกะทิ น้ำยำที่มีส่วนผสมของกะทิ โดยเฉพาะขนมไทยหลายเมนูที่ใช้ “กะทิ” เป็นวัตถุดิบ ช่วยทำให้อาหารมีรสชาติหวานมัน กลมกล่อม อร่อยลงตัวมากยิ่งขึ้น แล้วหัวกะทิ กับ หางกะทิ ต่างกันยังไงและเหมาะสำหรับทำเมนูไหน วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว
กะทิ : มีลักษณะเป็นน้ำสีขาวข้น รสหอมมัน ที่คั้นออกมาจากมะพร้าวแก่ จะเหมาะกับการนำมาขูดเป็นกะทิอย่างมาก และรสชาติที่เข้มข้นของกะทิ มาจากน้ำมันมะพร้าว และน้ำตาลมะพร้าวที่อยู่ในเนื้อมะพร้าว โดยมีรสชาติหวานและมัน
หัวกะทิ : น้ำกะทิที่ได้จากการคั้นมะพร้าวครั้งแรก ซึ่งผสมน้ำเพียงเล็กน้อย หรือบางที่อาจไม่ผสมเลย เป็นกะทิที่มีความเข้มข้นสูงที่สุด นิยมใช้หยอดหน้าขนม หรืออาหารต่างๆ
หางกะทิ : น้ำกะทิที่ได้จากการคั้นมะพร้าวครั้งที่ 2-3 มีปริมาณน้ำผสมอยู่มากกว่า ความเข้มข้นของกะทิจึงลดลง นิยมนำไปผสมในขนม
กะทิแตกมัน : การนำกะทิไปตั้งไฟจนเดือด ไขมันในกะทิแยกตัวลอยขึ้นมาเป็นน้ำมันบนผิว ส่วนมากนิยมใช้กับการทำแกงเผ็ด เช่น แกงเขียวหวาน แกงแดง
กะทิมีสารอาหารที่มีประโยชน์หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ อิเล็กโทรไลต์ โพแทสเซียม แคลเซียม และคลอไรด์ไขมันอิ่มตัว ถึงจะมีประโยชน์มากมายแบบนี้แต่อย่าลืมว่ากะทิมีไขมัน และอาหารหรือของหวานที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบมักมีน้ำตาลสูง ควรบริโภคแต่พอเหมาะ
ที่มาข้อมูล : www.technologychaoban.com (เทคโนโลยีภูมิปัญญาชาวบ้าน)