กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอิตาลีมีความกังวลเกี่ยวกับการนําเข้าข้าวจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกัมพูชาและเมียนมาร์ ซึ่งมีรายงานว่ามีต้นทุนการผลิตข้าวที่ต่ำมากโดยไม่คํานึงถึงข้อกําหนดด้านความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อมรวมถึงความปลอดภัยอาหาร
กรมการข้าวแห่งชาติอิตาลีร้องขอให้รัฐสภายุโรปเพิ่มมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวจากประเทศนอกสหภาพยุโรปและใช้มาตรการปกป้องการนำเข้า โดยเฉพาะจากประเทศกลุ่ม Least Developed Countries (LDCs) นอกจากนี้ ยังคัดค้านคำขอของอินเดียและปากีสถานเพื่อให้สหภาพยุโรปยอมรับและคุ้มครองสินค้า GI ของข้าวบาสมาติ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การยกเว้นภาษีศุลกากรในอนาคต กรมการข้าวแห่งชาติอิตาลียังเสนอให้กำหนดอัตราภาษีศุลกากรนำเข้าแตกต่างกันสำหรับข้าวที่บรรจุถุง (packaged milled rice) และข้าวถุงขนาดใหญ่ (bulk milled rice) เนื่องจากปัจจุบัน ข้าวทั้งสองประเภทที่นำเข้าจากประเทศในกลุ่ม LCD มีอัตราภาษีศุลกากรเท่ากัน (175 ยูโรต่อตัน)
วันที่ 6 พฤษภาคม2567 กระทรวงเกษตรและอธิปไตยด้านอาหารและป่าไม้อิตาลี ได้มีการประชุมเพื่อหารือความท้าทายและหาความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าวของประเทศในทุกภาคส่วน ในประเด็นการรับประกันรายได้แก่ผู้ปลูกข้าวและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านข้าว รวมถึง แนวทางในการคุ้มครองการผลิตข้าวของอิตาลีจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นทางศุลกากร เป็นต้น และจะมีการประชุม “Permanent Roundtable on Rice” ในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้ อิตาลีเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวชั้นนําในสหภาพยุโรป โดยผลิตได้ประมาณ 1.5 ล้านตัน/ปี เท่ากับ 50% ของการผลิตข้าวของสหภาพยุโรปทั้งหมด.
แหล่งที่มา : นิตยสาร The Rice Farmer
โดย National Rice Authority of Italy
มิถุนายน 2024