บทวิเคราะห์ อุตสาหกรรมเกษตร ปี 2566 กับแนวโน้มเติบโตที่แตกต่างจาก ปี 2565 พร้อมอัปเดตแนวทางการปรับตัวรับโอกาสของภาคเกษตรไทย & EEC
31 ต.ค. 2566
47
0
บทวิเคราะห์ อุตสาหกรรมเกษตร ปี 2566 กับแนวโน้มเติบโตที่แตกต่างจาก ปี 2565 พร้อมอัปเดตแนวทางการปรับตัวรับโอกาสของภาคเกษตรไทย & EEC
บทวิเคราะห์อุตสาหกรรมเกษตรปี2566กับแนวโน้มเติบโตที่แตกต่างจาก
บทวิเคราะห์ อุตสาหกรรมเกษตร ปี 2566 กับแนวโน้มเติบโตที่แตกต่างจาก ปี 2565 พร้อมอัปเดตแนวทางการปรับตัวรับโอกาสของภาคเกษตรไทย & EEC

EIC คาดว่าอุตสาหกรรมน้ำตาล มันสำปะหลัง และข้าว ในปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่องจากปีนี้ ขณะที่อุตสาหกรรมยางพาราและปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มกลับมาหดตัว ท่ามกลางความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับลดลง รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ในระบบเศรษฐกิจ
อุตสาหกรรมน้ำตาล มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปริมาณผลผลิตน้ำตาลและมูลค่าตลาดน้ำตาลที่มีแนวโน้มเติบโต โดยในปี 2023 คาดว่ามูลค่าการส่งออกน้ำตาลของไทยและมูลค่าตลาดน้ำตาลในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.2%YOY และ 3.8%YOY ตามลำดับ แต่อย่างไรก็ดี ยังต้องจับตาความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกและนโยบายควบคุมการส่งออกน้ำตาลของอินเดีย
อุตสาหกรรมมันสำปะหลัง มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามปริมาณผลผลิตและราคามันสำปะหลังที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในปี 2023 คาดว่า มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.7% อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมยังต้องเผชิญความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า นโยบายเกษตรของจีน และการกลับมาระบาดของโรคใบด่าง
อุตสาหกรรมข้าว มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปริมาณผลผลิตและราคาข้าวที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยในปี 2023 คาดว่ามูลค่าการส่งออกข้าวจะขยายตัวสูงถึง 25.8%YOY อย่างไรก็ดี ยังต้องจับตาความเสี่ยงจากนโยบายส่งออกข้าวของอินเดียและต้นทุนการผลิตข้าวของไทยที่สูงกว่าคู่แข่ง
อุตสาหกรรมยางพารา มีแนวโน้มกลับมาหดตัว จากราคาและมูลค่าการส่งออกยางพาราที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ประกอบกับผลผลิตยางพารามีแนวโน้มเติบโตในระดับต่ำ โดย EIC คาดว่า ในปี 2023 มูลค่าการส่งออกยางพาราจะปรับตัวลดลง 7.5%YOY สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่จะมีผลต่อแนวโน้มอุตสาหกรรม คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกและการแพร่ระบาดของโรคใบร่วงยางพาราชนิดใหม่
อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน มีแนวโน้มหดตัว ตามราคาน้ำมันปาล์มดิบและอุปสงค์น้ำมันปาล์มดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ประกอบกับผลผลิตปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มเติบโตในระดับต่ำ โดย EIC คาดว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบในปี 2023 จะปรับตัวลดลง 25.8%YOY นอกจากนี้ ยังต้องจับตาความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก และนโยบายการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบของผู้ส่งออกหลักอย่างอินโดนีเซีย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

https://www.salika.co/2022/11/23/agriculture-industry-thailand-2566/

ตกลง