ระวัง ไรแดงแอฟริกัน ในทุเรียน
15 ก.พ. 2567
100
0
ระวัง ไรแดงแอฟริกัน ในทุเรียน
ระวัง ไรแดงแอฟริกัน ในทุเรียน

ระวัง ไรแดงแอฟริกัน ในทุเรียน
สภาพอากาศในช่วงนี้อากาศแห้งแล้ง อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อากาศร้อนในตอนกลางวัน เตือนผู้ปลูกทุเรียน ในระยะ ระยะหัวกำไล ระยะปิ่น หรือหางแย้ รับมือไรแดงแอฟริกัน
ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยงอยู่ที่บริเวณหน้าใบ พบระบาดทำความเสียหายแก่ทุเรียน โดยเฉพาะเมื่อสภาพอากาศแห้งแล้ง และลมแรง ที่หน้าใบจะเห็นคราบของไรคล้ายผงหรือฝุ่นละอองสีขาวเกาะอยู่ สีของใบจะซีดไม่เขียวเป็นมันเหมือนใบปกติ ถ้าการทำลายเกิดขึ้นอย่างรุนแรง และต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจมีผลทำให้ทุเรียนใบร่วง การเจริญเติบโตหยุดชะงัก และมีผลกระทบต่อการติดดอก และผลของทุเรียนได้ ประชากรไรมักหนาแน่นมากบริเวณทรงพุ่มด้านนอกที่ถูกแสงแดด ส่วนยอดหรือด้านบนของทรงพุ่ม การแพร่ระบาดในสวนพบว่าจะระบาดรุนแรงเป็นหย่อมๆ ทางด้านเหนือลม ด้านขอบรอบแปลง และด้านที่ติดถนน
แนวทางป้องกัน/แก้ไข
๑. หมั่นตรวจดูใบทุเรียน โดยใช้แว่นขยาย กำลังขยาย ๑๐ เท่า ส่องดูด้านหน้าใบ ในช่วงเดือนตุลาคม - มกราคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่มีลมพัดแรง และฝนทิ้งช่วง
๒. สารฆ่าไรที่ใช้ได้ผลในการป้องกันกำจัดไรแดงแอฟริกัน ได้แก่ สารโพรพาร์ไกต์ ๓๐% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา ๓๐ กรัมต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ อะมิทราซ ๒๐% อีซี อัตรา ๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร พ่นทั้งต้นโดยเฉพาะบริเวณยอดเมื่อพบไรระบาด
การใช้สารฆ่าไร ไม่ควรพ่นสารชนิดเดียวกันติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรใช้สลับชนิดกัน เพื่อป้องกันไรสร้างความต้านทานต่อสารฆ่าไร และใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น

 

 

ตกลง