เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2561 ดร.วราภรณ์ พรหมพจน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ดังนี้

สืบเนื่องจากการร้องเรียนปัญหาน้ำท่วมของเกษตรกรในพื้นที่หน่วงน้ำของบางระกำโมเดล ตั้งแต่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป ส่งผลกระทบทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถทำการเกษตรได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับประโยชน์จากการทำประมง จึงได้หารือแนวทางการแก้ไขปัญหา ร่วมกับนายกเทศมนตรีบางระกำเมืองใหม่ พร้อมด้วยผู้แทนเกษตรกรบางระกำ 4 ตำบล 32 คน 

โดยมีผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขต 17 จากกรมประมง (น.ส.สุวิมล กีรติวิริยาภรณ์) เจ้าหน้าที่ ธกส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือ ในประเด็น ดังนี้

 ได้ชี้แจงให้กับเกษตรกรว่า การห้ามจับปลาในฤดูน้ำแดง (วางไข่) ในจังหวัดพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 16 มิ.ย.ถึง 15 ก.ย.61  รัฐไม่ได้ห้ามจับปลาเสียทั้งหมด แต่ยังสามารถจับปลาได้ด้วยเครื่องมือประมงบางชนิด ตามประกาศกรมประมง (ลงวันที่ 11 พ.ค. 2561) ซึ่งประชาชนได้รับทราบและเป็นที่เข้าใจแล้ว

 ในช่วงน้ำท่วม หรือหน่วงน้ำในพื้นที่บางระกำ หลัง 1 ส.ค. ของทุกปี แม้มีปลาให้จับเป็นจำนวนมากแต่เกษตรกร ยังต้องการความรู้ที่ถูกต้องในการแปรรูปสัตว์น้ำ เพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่า รวมถึงการมีห้องเย็นจัดเก็บ Stock ปลา เพื่อรอการแปรรูป และการจำหน่าย ทั้งยังต้องการการสนับสนุนความเชื่อมโยงทางด้านการตลาด

เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่บางระกำโมเดลให้ทันการก่อนเข้าฤดูน้ำหลาก (ก่อน 1 ส.ค.61) ครอบคลุมพื้นที่กว่า 100,000 ไร่ จึงได้แนะนำในการแก้ไขปัญหาให้กับหน่วยงานประมงในพื้นที่ ดังนี้

ควรเร่งลงพื้นที่และเก็บข้อมูลสอบถามเกษตรกรทั้ง 4 ตำบล เพื่อทราบปริมาณปลาที่จับได้ แปรรูป และที่ต้อง Stockไว้เพื่อรอการแปรรูปและจำหน่าย

ควรเตรียมแผนเพื่อดำเนินการอบรมให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ 4 ตำบลของบางระกำ ด้านการแปรรูปสัตว์น้ำเพื่อเพิ่มมูลค่า อาทิ น้ำปลา ปลาร้า ปลาส้ม เป็นต้น

ควรหารือกับสหกรณ์จังหวัด และพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก ถึงเส้นทางการตลาดสัตว์น้ำทั้งสดและแปรรูป เพื่อสามารถจำหน่ายในพิษณุโลกและพื้นที่ใกล้เคียงอื่นๆ

ศึกษาข้อมูลในเรื่องของห้องเย็น ได้แก่ อัตราค่าเช่าห้องเย็นในพื้นที่ หรือความเป็นไปได้ในการจัดสร้างห้องเย็นสำหรับเกษตรกรในพื้นที่บางระกำ

ควรทำเป็นแผนงานโครงการในการพัฒนาอาชีพประมงทั้งระบบ ครอบคลุมถึงการรวบรวมสัตว์น้ำในตลาดกลาง การจัดเก็บในห้องเย็น การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า และการจัดหาตลาดรองรับ เพื่อเสนอขอใช้งบประมาณในปี 2563 (เตรียมเสนอขอจากงบจังหวัด)

ได้แนะนำเกษตรกรในพื้นที่หน่วงน้ำ ทั้ง 4 ตำบล ดังนี้ 

ควรมีการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การประมง เพื่อสามารถทำเป็นธุรกิจประมงได้ โดยให้หน่วยงานของเกษตรจังหวัด หรือสหกรณ์จังหวัด สนับสนุนการดำเนินการ 

หลังจากหารือได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมตลาดผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแปรรูปของเกษตรกร อำเภอบางระกำ ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปลาแปรรูป เช่น ปลาร้า ปลาส้ม และน้ำปลา เป็นต้น

ได้แนะนำให้ประมงจังหวัดประสานกับ สหกรณ์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด มาสนับสนุนและออกแบบในการทำแพ็คเกจให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า