นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานโครงการขับเคลื่อนการเกษตรระดับหมู่บ้านสู่การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ครั้งที่ 1/2566 โดยมีผู้แทนหน่วยงานทั้งในและนอกสังกัดที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting ว่า การประชุมคณะทำงานโครงการขับเคลื่อนการเกษตรระดับหมู่บ้านสู่การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ครั้งที่ 1/2566 ในวันนี้ เป็นการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในภาพรวม ตามที่กระทรวงเกษตรฯ ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานและแผนปฏิบัติการโครงการฯ ประกอบด้วย 1) ได้จัดตั้งทีมกลุ่มอำเภอจากกลุ่มงานของสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และมอบหมายกลุ่มอำเภอดำเนินการในพื้นที่แล้ว ทั้งหมด 76 จังหวัด 2) แต่งตั้งคณะทำงานโครงการฯ ระดับอำเภอแล้ว 58 จังหวัด 711 อำเภอ 3) จัดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนงานด้านการเกษตรระดับจังหวัดแล้ว 72 จังหวัด 4) จัดประชุมคณะทำงานโครงการฯ ระดับอำเภอหรือคณะทำงานขับเคลื่อนงานด้านเกษตรระดับอำเภอแล้ว 429 อำเภอ 5) คัดเลือกอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านแล้ว 304 หมู่บ้าน 6) จัดประชุมคณะกรรมการหมู่บ้านร่วมกับอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านแล้ว 172 หมู่บ้าน และ 7) คัดเลือกหมู่บ้านแล้ว 526 หมู่บ้าน ทบทวนแผนพัฒนาการเกษตรระดับหมู่บ้านแล้ว 73 หมู่บ้าน และจัดทำแผนธุรกิจเกษตรรายสินค้าแล้ว 11 แผน ขณะเดียวกัน ได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ ของจังหวัดจากสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดน่าน จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นตัวแทนสรุปรายงานฯ ของแต่ละภาค พบว่ามีความก้าวหน้าตามลำดับพอสมควร
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่วมกัน โดยมอบหมายสำนักแผนงานและโครงการพิเศษ แจ้งสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด เพื่อเร่งรัดติดตามการดำเนินการคัดเลือกหมู่บ้านให้แล้วเสร็จตามแผนปฏิบัติการโครงการฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กรมการปกครอง และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กำชับหน่วยงานในระดับพื้นที่ให้การสนับสนุน มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการฯ และพิจารณาแหล่งเงินทุน เพื่อสนับสนุนแผนธุรกิจเกษตรรายสินค้าของหมู่บ้านตามภารกิจที่รับผิดชอบ รวมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดนำแผนงาน/โครงการจากการทบรวนแผนพัฒนาการเกษตรระดับหมู่บ้าน มาบรรจุไว้ในแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัด และผลักดันเข้าสู่คำของบประมาณประจำปีของหน่วยงาน จังหวัด และกลุ่มจังหวัดต่อไป