นายถาวร ทันใจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ นายมาซาสุมิ โกะโตดะ(Mr. Masazumi Gotoda) ผู้ว่าราชการจังหวัดโทคุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น โดยมี ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ประเทศไทยกับญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นระยะเวลาถึง 137 ปี ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการเกษตรมาโดยตลอด อาทิ การส่งนักวิชาการเกษตรให้มาศึกษาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน รวมถึงการเปิดตลาดสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพมาจำหน่ายในประเทศ
นายถาวร กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการหารือเจรจาการส่งออกส้มโอและมะม่วงสดหลากหลายสายพันธุ์จากไทยไปเปิดตลาดที่ญี่ปุ่นให้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน ทางญี่ปุ่นต้องการเปิดตลาดพืชตระกูลส้มสายพันธุ์ Sudachi และ Yuzu ในประเทศไทย เพื่อเป็นแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรระหว่างกัน นอกจากนี้ ทางญี่ปุ่นยังเสนอให้เกษตรกรญี่ปุ่นและเกษตรกรไทยเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมการเกษตรของแต่ละประแทศ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ของด้านการผลิต การค้าระหว่างประเทศ และการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม อีกด้วย
ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรอันดับที่ 3 ของไทย และเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรเป็นอันดับที่ 2 ของไทย โดยในปี 2564 มีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตร 158,635 ล้านบาท และปี 2565 มีมูลค่า 183,487 ล้านบาท และปี 2566 มีมูลค่า 173,580 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรเฉลี่ยปีละ 171,901 ล้านบาท โดยมีอัตราการค้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 4.60 ต่อปี สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ไก่ชนิดแกลลัสโดเมสติกัสปรุงแต่ง อาทิ แกงไก่ที่บรรจุกระป๋อง 2) ชิ้นเนื้อและเครื่องในที่บริโภคได้ของไก่ชนิดแกลลัสโดเมสติกัสแช่แข็ง 3) อาหารสุนัขหรือแมวสำหรับขายปลีก 4) ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ค และปลาโบนิโต ปรุงแต่ง อาทิ ปลาทูน่ากระป๋อง (5) ยางธรรมชาติที่กำหนดไว้ในทางเทคนิค เป็นต้น